" ARAYA TOUR LONDON" เริ่มทัวร์ลอนดอนแล้วครับวันนี้ ใน พาราลิมปิคเกมส์ โดย คุณ หมอ เอ คอยติดตามได้ที่นี่ ครับ###

[Mahingsa]

ก่อนกลับ คุณหน่อยเช็คความเรียบร้อยให้้น้องยิ้ม หยอดน้ำมันโซ่เพื่อให้เบาแรงตอนปั่นกลับ
คุณลุงโกซิ่นกรุณามาส่งที่ปากซอย พร้อมทั้งอวยพรให้เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ....ขอบพระคุณครับ
เริ่มเดินทางกลับประมาณเกือบบ่ายสามโมง

ปั่นกลับไม่ได้ถ่ายรูปเลยครับ ก้มหน้าก้มตาปั่น...แหะๆ มันทวนลมอะครับ
พอเข้าเขตกรุงเทพ โอ้ย...อะไรรถมันจะเยอะขนาดนี้ จักรยานยังติด มาเริ่มเมื่อยหนักก็อีตอนรถติดนี่แหละครับ
มืดไวซะด้วยหน้านี้ เปิดไฟหน้าไฟท้าย เตรียมไว้แล้วครับ หน้าสองหลังสอง
และแล้วก็ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ ไม่เจอน้องคริว โชคดีจัง อิอิ
ออกจากบ้านประมาณ 7 โมง กลับถึงบ้านประมาณ หนึ่งทุ่ม
ได้มา 204 กม.

สรุป
แล้วผมก็ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ....ไชโย้....

Congratulations ด้วยคนครับ
ทริป 200 กม. วันเดียว คนเดียว ได้อะไรๆมากมายครับ

[Deang-sarapee]

ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จใน ๒๐๐ กม.ครั้งนี้ด้วยครับ..ชื่นชมครับ..เยี่ยม!

[T_lek]

เยี่ยมเลยครับคุณหมอ บรรยายซะเหมือนกันว่าได้เดินทางไปด้วยเลยครับ..


สำหรับ 200 โลของผมคือ ปั่นไปกินก๋วยเตี๋ยว กับถ่ายรูปปูยักษ์ที่กระบี่ครับ..

ไปเมื่อไรจะมาเล่าให้ฟังครับ..

[เอ็ม.เจ.ไบค์ นครปฐม]

มีช่วงนึงที่ถนนเลียบคลองเป็นลูกรัง น่าจะยาวสักสองกิโล
ผมปั่นหลบอ้อมหาทางที่ดีกว่า ไม่ไปเสียดายแย่เลยครับ

ทำที่เลี้ยงวัวได้สวยจริง





บรรยากาศยังกะปั่นในวนอุทยาน


รูปนี้นึกถึงหนังมนต์รักลูกทุ่ง.....เจ้ายิ้มแสดงนำ

จักรยานเก็บรายละเอียดในการเดินทางได้ดีที่สุด สัมผัสบรรยากาศที่ค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปทีละนิดๆ ครับ

[เอ็ม.เจ.ไบค์ นครปฐม]

ก่อนกลับ คุณหน่อยเช็คความเรียบร้อยให้้น้องยิ้ม หยอดน้ำมันโซ่เพื่อให้เบาแรงตอนปั่นกลับ
คุณลุงโกซิ่นกรุณามาส่งที่ปากซอย พร้อมทั้งอวยพรให้เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ....ขอบพระคุณครับ
เริ่มเดินทางกลับประมาณเกือบบ่ายสามโมง

ปั่นกลับไม่ได้ถ่ายรูปเลยครับ ก้มหน้าก้มตาปั่น...แหะๆ มันทวนลมอะครับ
พอเข้าเขตกรุงเทพ โอ้ย...อะไรรถมันจะเยอะขนาดนี้ จักรยานยังติด มาเริ่มเมื่อยหนักก็อีตอนรถติดนี่แหละครับ
มืดไวซะด้วยหน้านี้ เปิดไฟหน้าไฟท้าย เตรียมไว้แล้วครับ หน้าสองหลังสอง
และแล้วก็ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ ไม่เจอน้องคริว โชคดีจัง อิอิ
ออกจากบ้านประมาณ 7 โมง กลับถึงบ้านประมาณ หนึ่งทุ่ม
ได้มา 204 กม.

สรุป
แล้วผมก็ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ....ไชโย้....

วานคุณหมอช่วยอธิบายว่า ขี่100กม กับ200กม เราได้อะไรเพิ่มจากการขี่200กมที่แตกต่างจาก100กม ที่ไม่ใช่ระยะทางเพียงอย่างเดียว ครับ

[เอ็ม.เจ.ไบค์ นครปฐม]

คุณหมอครับ
โอกาสหน้าขอติดตามไปเยี่ยม MJ. ด้วยครับ

เดิมๆเมื่อก้าวออกจากร้าน

เพิ่มเติมอุปกรณ์ (ทำความฝันของตนเองก่อนไม่มีเรี่ยวแรงปั่น)

[/url]

ยินดีต้อนรับ อาจารย์โชค ครับ

[Dr A]

Congratulations ด้วยคนครับ
ทริป 200 กม. วันเดียว คนเดียว ได้อะไรๆมากมายครับ

ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จใน ๒๐๐ กม.ครั้งนี้ด้วยครับ..ชื่นชมครับ..เยี่ยม!

เยี่ยมเลยครับคุณหมอ บรรยายซะเหมือนกันว่าได้เดินทางไปด้วยเลยครับ..
สำหรับ 200 โลของผมคือ ปั่นไปกินก๋วยเตี๋ยว กับถ่ายรูปปูยักษ์ที่กระบี่ครับ..
ไปเมื่อไรจะมาเล่าให้ฟังครับ..

ขอบคุณทุกท่านครับ บทความหลากหลายในบอร์ด M J แห่งนี้ เป็นส่วนสำคัญทำให้ผมพยายามพัฒนาการปั่นจักรยาน จนปั่นสนุกอยู่ทุกวันนี้ครับ
และก็ยินดีรับคำแนะนำต่างๆ เพื่อพัฒนาการปั่นต่อไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บทความมากประสบการณ์ของ อ.ขวัญใจ พี่แดง และคุณ Mahingsa สุดยอดครับ

[Dr A]

วานคุณหมอช่วยอธิบายว่า ขี่100กม กับ200กม เราได้อะไรเพิ่มจากการขี่200กมที่แตกต่างจาก100กม ที่ไม่ใช่ระยะทางเพียงอย่างเดียว ครับ

ขออนุญาตเล่าความรู้สึกส่วนตัวไว้ตรงนี้นะครับ
ผิดอย่างไรช่วยกันแก้ไขด้วยนะครับ เพราะบางอย่างมันอาจเหมาะกับตัวผมแต่ไม่เหมาะกับท่านอื่นๆก็เป็นไปได้ครับ
......................

ไม่ใช่เพียงแต่ว่าได้อะไรเพิ่มนะครับ มันมีความแตกต่างตั้งแต่เริ่มต้น ต่างอย่างมากด้วยครับ
ขี่ 100 กับ 200 ต่างกันมากมายครับ สองเท่าเห็นๆ
โดยปกติถ้าว่าง ผมก็ปั่นวันอาทิตย์กับกลุ่ม ประมาณ 100 โล ออกเช้าเสร็จบ่ายๆ เย็นๆ
เรียกว่าจริงจริงแล้วร่างกายผมเคยเจอแต่ระยะประมาณ 100 โลเท่านั้น
การปั่น 200 โลในวันเดียว ก็เท่ากับว่าผมต้องเตรียมตัวปั่นสองทริปยาวๆ ในวันเดียว
แถมต้องเร่งเวลาให้เสร็จทริป 100 แรกในครึ่งวัน เพื่ออีกครึ่งให้ทริป 100 ที่เหลือ

ดังนั้นการที่หวังจะทำให้ได้ 200 ในวันเดียว ผมจึงจำเป็นต้องมีการวางแผนการขี่ที่แตกต่างครับ
1. เป้าหมายของเราคือระยะทาง 200 กม. ไม่ใช่เวลา
2. ต้องปั่นให้ช้าลง
3. ต้องหยุดพักให้บ่อยขึ้น
4. ต้องดื่มน้ำและเติมพลังให้บ่อยขึ้น

ก็ได้คำแนะนำมาจาก M J นี่แหละครับ

[Dr A]

1. เป้าหมายที่ 200 กม. มีเวลาทั้งวัน เร่งอย่างไรก็ไม่ดีไปกว่านี้ ดูแผนที่เส้นทางไว้แล้ว อ้อมไปโน่นนี่ได้สบาย
บอกตัวเองว่าดูสองข้างทางให้มากๆ หน่อย อย่าก้มหน้าก้มตาคอยจะดูแต่ที่วัดไมล์ ใช้เวลาวันนี้ให้มีคุ้มค่า
2. ต้องปั่นให้ช้าลง หมายถึงว่าปั่นใช้แรงกดบันไดให้เบาขึ้น โหลดต่อกล้ามเนื้อน้อยลง
ผมตั้งใจไว้ว่าห้ามเกิน 25 km/hr ฟังดูเหมือนง่ายนะครับ แต่จริงแล้วโอกาสเผลอมีได้สูง โดยเฉพาะการปั่นคนเดียว
ช่วงแรกที่ร่างกายยังสดมันมักอดใจไม่ได้ ตอนเจอสะพานยิ่งต้องระวัง จดจ่อที่แรงกดบันได
นึกถึงคำแนะนำของคุณหน่อยเข้าไว้ เกียร์เขามีไว้ให้ใช้ เริ่มจะหนักเกินก็เปลี่ยนให้มันเบา อย่าลืมอย่าลืม

[Dr A]

3. ต้องหยุดพักให้บ่อยขึ้น คุณหน่อยแนะนำไว้ให้พักทุกๆ 50 นาทีหรือไม่เกิน 20 กม. ผมก็พยายามดูเวลาไว้ครับ
แต่พอไปได้สักพักจึงรู้ว่าทำไม่ได้ แหะแหะ...พอไม่เร่งรีบ สายตาก็มีเวลาสอดส่อง สิ่งน่าสนใจข้างทางมันมีเยอะไปหมด
ไอ้เรามันชอบเก็บภาพซะด้วย นี่ขนาดไม่ได้พกกล้องไปด้วย มือถือสมัยนี้ก็พอใช้ได้ ตกลงผมหยุดบ่อยมากครับ ไม่ได้ดูเวลาซะแล้ว
เปลี่ยนใจเป็นใช้เวลาหยุดถ่ายรูปเป็นการพักก็ละกัน ถี่บ้างห่างบ้าง นานบ้างแว่บเดียวบ้าง ตามแต่โอกาส นี่แหละข้อดีข้อเสียของการปั่นเดี่ยว สบายแต่ไร้ระเบียบ
ได้พบความจริงว่าเมื่อใจเราไม่เร่งรีบ เราจะมีโอกาสหยุดพักร่างกายได้บ่อย
เช่นหยุดถ่ายภาพ หยุดเช็คยืนยันเส้นทาง หยุดเข้าห้องน้ำ หยุดซื้อน้ำซื้อของกิน
ทุกครั้งที่หยุดผมจะลงจากรถ แม้แต่ติดไฟแดงผมก็จะลงจากเบาะนั่ง ถนอมก้นถนอมน้องเอาไว้ครับ


4. ต้องดื่มน้ำให้บ่อย นี่สำคัญอันดับต้นๆ เลย นึกได้จิบนึกได้ดื่ม รู้ได้ไงว่าดื่มน้ำพอหรือไม่ สำหรับผมดื่มให้เวลาหยุดปั๊มน้ำมันแล้วรู้สึกอยากฉี่
ถ้าไม่ปวดและฉี่ออกมาเข้มจัด นั่นแหละดื่มน้ำไม่พอซะแล้ว เรื่องน้ำเกลือแร่ผมว่าไม่ค่อยจำเป็นมากนัก ดื่มมากเกินจะเกิดผลเสียเอาเพราะจะได้เกลือแร่ในกระแสเลือดที่เข้มข้นเกินไป
สักขวดตอนเที่ยวกลับก็พอได้ เน้นที่น้ำเปล่า น้ำเปล่า และน้ำเปล่านะครับ
แน่นอนต้องกินอาหารเติมพลังให้บ่อยขึ้น กินบ่อยขึ้นก็จะเท่ากับเราได้ปริมาณพลังงานเพิ่มมากขึ้นไปด้วย
อย่าเว้นช่วงนานเกินเพราะจะให้พลังงานได้ไม่ต่อเนี่อง กินพร้อมกับการพักทุกๆ 50 นาที
แต่ไม่ต้องซัดซะเต็มที่นะครับ กล้วยตากของฝากจาก M J กำลังดี มื้อหนักหน่อยก็จะเป็นมื้อกลางวันแหละครับ

[Dr A]

สรุปสิ่งที่ได้มากขึ้นจากการขี่ 200 กม.

1. จำเป็นต้องมีการวางแผนการปั่น การพัก การกิน ตลอดทริป
2. สมาธิที่แรงกดบันไดต้องมีเกือบตลอดเวลา
3. รู้จักการบังคับตัวเองมากขึ้น
4. รู้ตัวว่าเรามีแรงจำกัด อย่าได้เผลอใช้เกินเป็นอันขาด
5. ได้รู้ว่าจักรยานเป็นพาหนะที่ไปได้ไกลถึง 200 กม.ในหนึ่งวัน คนไม่ขี่คงนึกไม่ถึง
6. ยืนยันว่าขี่จักรยานแล้วมีความสุข ให้ผมขับรถยนต์เล่นไปกลับ 200 โล ผมไม่เอาแน่ๆ แต่ให้ขี่จักรยานแบบนี้อีก...เอาดิครับ

และข้อสุดท้ายที่ได้เพิ่มมาก็คือ....ความภูมิใจ...... “ผมก็ทำได้กับเขาเหมือนกัน” อิอิ

ที่เสียดายก็คือ ผมยังขาดไม่ได้ไปสิ่งหนึ่ง คือความสามัคคี การร่วมปั่นเป็นทีม
ซึ่งต้องได้อะไรใหม่ๆ ที่มีคุณค่าอีกหลายอย่างแน่นอน โอกาสหน้าครับ ไม่นานเกินรอ
.........................................
หมายเหตุ....เป็นบทความตามความรู้สึกส่วนตัว ผิดอย่างไรช่วยกันแก้ไขด้วยนะครับ
.......เหมาะสำหรับหนึ่งคน อาจไม่เหมาะกับอีกหลายคนก็เป็นได้ครับ

[T_lek]

ขอบคุณ คุณหมอมากครับ ที่มาเล่าประสบการณืและข้อแนะนำดีๆ ให้รับรู้รับทราบ..

ผมวางแผนปั่นเดี่ยวไปเที่ยวกระบี่ ระยะทางไป-กลับก็ประมาณ 220 กม.

จะนำวิธีการที่คุณหมอสรุปมาไปใช้ครับ..

สำหรับการปั่นเป็นทีมทางไกล ถ้ามีโอกาสขอร่วมทางด้วยกันซักครั้งครับ..

[Plug@cc35]

ยินดีกับคุณหมอเอด้วยครับ ผ่าน200กม.ไปอีกหนึ่งท่าน เย้ๆ

[rblue]

สรุปสิ่งที่ได้มากขึ้นจากการขี่ 200 กม.

1. จำเป็นต้องมีการวางแผนการปั่น การพัก การกิน ตลอดทริป
2. สมาธิที่แรงกดบันไดต้องมีเกือบตลอดเวลา
3. รู้จักการบังคับตัวเองมากขึ้น
4. รู้ตัวว่าเรามีแรงจำกัด อย่าได้เผลอใช้เกินเป็นอันขาด
5. ได้รู้ว่าจักรยานเป็นพาหนะที่ไปได้ไกลถึง 200 กม.ในหนึ่งวัน คนไม่ขี่คงนึกไม่ถึง
6. ยืนยันว่าขี่จักรยานแล้วมีความสุข ให้ผมขับรถยนต์เล่นไปกลับ 200 โล ผมไม่เอาแน่ๆ แต่ให้ขี่จักรยานแบบนี้อีก...เอาดิครับ

และข้อสุดท้ายที่ได้เพิ่มมาก็คือ....ความภูมิใจ...... “ผมก็ทำได้กับเขาเหมือนกัน” อิอิ

ที่เสียดายก็คือ ผมยังขาดไม่ได้ไปสิ่งหนึ่ง คือความสามัคคี การร่วมปั่นเป็นทีม
ซึ่งต้องได้อะไรใหม่ๆ ที่มีคุณค่าอีกหลายอย่างแน่นอน โอกาสหน้าครับ ไม่นานเกินรอ
.........................................
หมายเหตุ....เป็นบทความตามความรู้สึกส่วนตัว ผิดอย่างไรช่วยกันแก้ไขด้วยนะครับ
.......เหมาะสำหรับหนึ่งคน อาจไม่เหมาะกับอีกหลายคนก็เป็นได้ครับ

สุดยอด สุดๆ ครับพี่หมอ ยินดีด้วยครับ ... แล้วจะตามไปน่าครับ พี่.....

[Deang-sarapee]

สรุปสิ่งที่ได้มากขึ้นจากการขี่ 200 กม.

1. จำเป็นต้องมีการวางแผนการปั่น การพัก การกิน ตลอดทริป
2. สมาธิที่แรงกดบันไดต้องมีเกือบตลอดเวลา
3. รู้จักการบังคับตัวเองมากขึ้น
4. รู้ตัวว่าเรามีแรงจำกัด อย่าได้เผลอใช้เกินเป็นอันขาด
5. ได้รู้ว่าจักรยานเป็นพาหนะที่ไปได้ไกลถึง 200 กม.ในหนึ่งวัน คนไม่ขี่คงนึกไม่ถึง
6. ยืนยันว่าขี่จักรยานแล้วมีความสุข ให้ผมขับรถยนต์เล่นไปกลับ 200 โล ผมไม่เอาแน่ๆ แต่ให้ขี่จักรยานแบบนี้อีก...เอาดิครับ

และข้อสุดท้ายที่ได้เพิ่มมาก็คือ....ความภูมิใจ...... “ผมก็ทำได้กับเขาเหมือนกัน” อิอิ

ที่เสียดายก็คือ ผมยังขาดไม่ได้ไปสิ่งหนึ่ง คือความสามัคคี การร่วมปั่นเป็นทีม
ซึ่งต้องได้อะไรใหม่ๆ ที่มีคุณค่าอีกหลายอย่างแน่นอน โอกาสหน้าครับ ไม่นานเกินรอ
.........................................
หมายเหตุ....เป็นบทความตามความรู้สึกส่วนตัว ผิดอย่างไรช่วยกันแก้ไขด้วยนะครับ
.......เหมาะสำหรับหนึ่งคน อาจไม่เหมาะกับอีกหลายคนก็เป็นได้ครับ

ไม่ผิด..นะครับ ถ้าผมจะร่วมแสดงความดีใจ และชื่นชม คุณหมอ ที่มีความสามารถผ่าน ๒๐๐ กม.ได้แบบชิว ๆ และชื่นชมกับบทสรุปที่มีคุณค่าเป็นอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่กำลังจะเริ่มหรือเริ่มแล้วแต่ยังไม่กล้า ฯ เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ให้ขับรถเล่น ๒๐๐ กม.อย่างไรก็ไม่(บ้า) เอาครับแต่ปั่นห้ามชวน (ไปแน่ ๆ ) นักปั่นทั้งหลายเก็บข้อคิดของคุณหมอไปใช้ได้เลย ไม่ต้องสงสัยครับ สำหรับข้อที่คุณหมอเสียดาย ไม่น่าห่วงครับถ้าคุณหมอร่ำรวยขึ้น(เวลา) คุณหมอจะประสบผลสำเร็จอย่างไม่ต้องสงสัย จะคอยติดตามและเป็นกำลังใจให้คุณหมอครับ ขอบคุณมากครับ