***กลุ่มสากเหล็ก***
ผู้ดูแล: TheDeathMan
กฏการใช้บอร์ด
ชื่อชมรม Phichit Bike
ผู้ดูแล TheDeathMan / โทร 0846220237
ชื่อชมรม Phichit Bike
ผู้ดูแล TheDeathMan / โทร 0846220237
- hs6rpj
- ขาประจำ
- โพสต์: 690
- ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 21:12
- Tel: 0813790703
- Bike: trek
Re: ***กลุ่มสากเหล็ก***
ผมขอเตือนนักขี่จักรยานทางไกล ทั้งต่อเนื่องติดต่อกัน หลายวันหรือวันเดียวก็ตาม หรือ
เพื่อออกกำลังกายเพื่อสุขภาพครับ
-ข้อแรกสำคัญที่สุด อย่าผลักดันตัวเอง ตามคนที่มีความสามารถสูงกว่าโดยเด็ดขาด
-ข้อสองเดินทางเป็นกลุ่มเอาคนที่มีความสามารถน้อยสุดมาเป็นตัวตั้ง คือเป็นตัวมาตรฐานการเดินทางครับ
-ข้อสามประชุมหารือกันก่อนออกเดินทาง ให้ทุกคนยอมรับวิธีการตามข้อสองให้ได้
-ข้อสี่ควบคุมการขี่ให้อยู่ไม่ให้เกินโซน2ของการออกกำลังกายคือประมาณ65-75%ของความสามารถสูงสุด
ของคนที่มีความสามารถน้อยที่สุดขณะนั้นครับ
-ข้อห้าห้ามขี่แบบบ้าพลังอัดแข่งกันไปเหนื่อยแล้วพัก หายเหนื่อยแล้วขี่ต่อครับ ซึ่งมีข้อเสียอย่างมากมาย
วิธีนี้ไม่สามารถนำมาขี่ทางไกลได้ครับ แม้แต่ แล้มป์ แชมป์3 สมัยก็ไม่ใช้วิธีขี่แบบนี้ครับ
-ถ้าใช้วิธีตามข้อห้า ผลเสียคือ
1. การหลั่งของกรดแลคติคอย่างรวดเร็วเพราะเข้าสู่โซนอแนโรบิค กรดนี้มีผลทำลายกล้ามเนื้อ
มีอาการดังนี้คือหลังจากหยุดพักแล้วขี่ต่อ จะปวดล้ากล้ามเนื้อทั้งๆที่มีแรงขี่ต่อ กรดนี้ร่างกายสร้าง
เป็นอัตโนมัตืเพื่อหยุดให้เราทรมานร่างกายอีกต่อไป คือคูณต้องหยุดขี่นั่นเอง
2.กรดนี้จะสะสมอยู่ในร่างกายอีก 2-3 วันซึ่งจะมีผลกับการขี่วันต่อไป ถ้ายังใช้การขี่แบบนี้อยู่
กรดก็จะหลั่งสะสมเพื่มอีก ถ้าไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการขี่ ท่านก็จะมีอาการจมกรดในที่สุดครับ
3. เสี่บงต่อการทำงานของหัวใจอยู่ใน MAX HR บ่อยเกินไป หัวใจก็โต ผลเสียเฉียบพลัน
ต่อหัวใจอีกมากมาย
4. การใช้พลังงานไม่สมดุล เพราะโซนนี้เป็นโซนอแนโรบิคซึ่งใช้พลังงานจากคารโบไฮเดรต80-90%
ที่เหลือเป็นไขมัน เมี่อเชื้อเพลิงจากคาร์โบไฮเดรตหมดเราก็ล้าและหมดแรงในที่สุด
ทำให้ขาดความทนทาน ระยะทางการขี่ต่อวันจะน้อยลงไปเรื่อยๆ
แต่ถ้าใช้การขี่โซน2ซึ่งเป็นโซนแอโรบิคร่างกายจะใช้พลังงาน ไขมัน/คาร์โบไฮเดรต 50/50 โดยประมาณ
ซึ่งทำให้การเผาผลาญหมดจด และสมดุล ทำให้ขี่ได้ทนทานและได้ระยะทางต่อวันมาก
และร่างกายไม่เสียหายครับ5. การหลั่งอะดีนาลีน ทำให้ร่างกายทรุดโทรม แก่ หง่อม
6. เกิดการสูญเสียน้ำอย่างรุนแรง และสูญเสียเกลือแร่มากับเหงื่อซึ่งเหงื่อมีหน้าที่ระบายความร้อน
- ข้อหก ก่อนออกเดินทางดื่มน้ำให้เพียงพอ แล้วดื่มน้ำแบบจิบทุกๆ20นาที
อย่ารอจนกระหายน้ำ ถ้ามีอาการกระหายน้ำแสดงว่าร่างกายเราขาดน้ำแล้วครับ
ข้อระวังการขาดน้ำอย่างรุนแรง จะมีอาการ ดังนี้คือเมื่อหยุดพักเหงื่อจะออกอย่างมาก
จนโชกตัว ตัวจะเย็นอาจเกิดการช์อคหมคสติได้ครับ วัธีแก้ไขคือ นอนราบ สักพักแล้วดื่มน้ำ
อีกสักพักค่อยดื่มเกลือแร่ตาม นอนจนดีชึ้น แล้วไปพักผ่อนต่อ โดยหยุดขี่ต่อทันทีครับ
อาการที่ว่านี้ภาษาออกกำลังกายเรียกว่า เกิดอาการ BONK ครับ
ขี่แล้ววูบ ขี่แล้วหน้ามืด เป็นลม สาเหตุส่วนมากเกิดจากอาการนี้ทั้งนั้นครับ
@ ถ้าขาดน้ำแต่ไม่มากจะปวดหัวครับแล้วปวดมากด้วย แบบนี้เรียกว่า BURN ครับ บางท่าน
เข้าใจผิดนึกว่าความดันขึ้น ตกใจไปกันใหญ่ครับ
การขี่จักรยานแล้วใช้พฤติกรรมแบบที่กล่าวถึงข้อห้าข้างบนนี้ มีค่าเท่ากับ คุณกำลังทำร้ายตัวเอง หรือ
คุณกำลังพยายามฆ่าตัวตายนั่นเองครับ
เพื่อออกกำลังกายเพื่อสุขภาพครับ
-ข้อแรกสำคัญที่สุด อย่าผลักดันตัวเอง ตามคนที่มีความสามารถสูงกว่าโดยเด็ดขาด
-ข้อสองเดินทางเป็นกลุ่มเอาคนที่มีความสามารถน้อยสุดมาเป็นตัวตั้ง คือเป็นตัวมาตรฐานการเดินทางครับ
-ข้อสามประชุมหารือกันก่อนออกเดินทาง ให้ทุกคนยอมรับวิธีการตามข้อสองให้ได้
-ข้อสี่ควบคุมการขี่ให้อยู่ไม่ให้เกินโซน2ของการออกกำลังกายคือประมาณ65-75%ของความสามารถสูงสุด
ของคนที่มีความสามารถน้อยที่สุดขณะนั้นครับ
-ข้อห้าห้ามขี่แบบบ้าพลังอัดแข่งกันไปเหนื่อยแล้วพัก หายเหนื่อยแล้วขี่ต่อครับ ซึ่งมีข้อเสียอย่างมากมาย
วิธีนี้ไม่สามารถนำมาขี่ทางไกลได้ครับ แม้แต่ แล้มป์ แชมป์3 สมัยก็ไม่ใช้วิธีขี่แบบนี้ครับ
-ถ้าใช้วิธีตามข้อห้า ผลเสียคือ
1. การหลั่งของกรดแลคติคอย่างรวดเร็วเพราะเข้าสู่โซนอแนโรบิค กรดนี้มีผลทำลายกล้ามเนื้อ
มีอาการดังนี้คือหลังจากหยุดพักแล้วขี่ต่อ จะปวดล้ากล้ามเนื้อทั้งๆที่มีแรงขี่ต่อ กรดนี้ร่างกายสร้าง
เป็นอัตโนมัตืเพื่อหยุดให้เราทรมานร่างกายอีกต่อไป คือคูณต้องหยุดขี่นั่นเอง
2.กรดนี้จะสะสมอยู่ในร่างกายอีก 2-3 วันซึ่งจะมีผลกับการขี่วันต่อไป ถ้ายังใช้การขี่แบบนี้อยู่
กรดก็จะหลั่งสะสมเพื่มอีก ถ้าไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการขี่ ท่านก็จะมีอาการจมกรดในที่สุดครับ
3. เสี่บงต่อการทำงานของหัวใจอยู่ใน MAX HR บ่อยเกินไป หัวใจก็โต ผลเสียเฉียบพลัน
ต่อหัวใจอีกมากมาย
4. การใช้พลังงานไม่สมดุล เพราะโซนนี้เป็นโซนอแนโรบิคซึ่งใช้พลังงานจากคารโบไฮเดรต80-90%
ที่เหลือเป็นไขมัน เมี่อเชื้อเพลิงจากคาร์โบไฮเดรตหมดเราก็ล้าและหมดแรงในที่สุด
ทำให้ขาดความทนทาน ระยะทางการขี่ต่อวันจะน้อยลงไปเรื่อยๆ
แต่ถ้าใช้การขี่โซน2ซึ่งเป็นโซนแอโรบิคร่างกายจะใช้พลังงาน ไขมัน/คาร์โบไฮเดรต 50/50 โดยประมาณ
ซึ่งทำให้การเผาผลาญหมดจด และสมดุล ทำให้ขี่ได้ทนทานและได้ระยะทางต่อวันมาก
และร่างกายไม่เสียหายครับ5. การหลั่งอะดีนาลีน ทำให้ร่างกายทรุดโทรม แก่ หง่อม
6. เกิดการสูญเสียน้ำอย่างรุนแรง และสูญเสียเกลือแร่มากับเหงื่อซึ่งเหงื่อมีหน้าที่ระบายความร้อน
- ข้อหก ก่อนออกเดินทางดื่มน้ำให้เพียงพอ แล้วดื่มน้ำแบบจิบทุกๆ20นาที
อย่ารอจนกระหายน้ำ ถ้ามีอาการกระหายน้ำแสดงว่าร่างกายเราขาดน้ำแล้วครับ
ข้อระวังการขาดน้ำอย่างรุนแรง จะมีอาการ ดังนี้คือเมื่อหยุดพักเหงื่อจะออกอย่างมาก
จนโชกตัว ตัวจะเย็นอาจเกิดการช์อคหมคสติได้ครับ วัธีแก้ไขคือ นอนราบ สักพักแล้วดื่มน้ำ
อีกสักพักค่อยดื่มเกลือแร่ตาม นอนจนดีชึ้น แล้วไปพักผ่อนต่อ โดยหยุดขี่ต่อทันทีครับ
อาการที่ว่านี้ภาษาออกกำลังกายเรียกว่า เกิดอาการ BONK ครับ
ขี่แล้ววูบ ขี่แล้วหน้ามืด เป็นลม สาเหตุส่วนมากเกิดจากอาการนี้ทั้งนั้นครับ
@ ถ้าขาดน้ำแต่ไม่มากจะปวดหัวครับแล้วปวดมากด้วย แบบนี้เรียกว่า BURN ครับ บางท่าน
เข้าใจผิดนึกว่าความดันขึ้น ตกใจไปกันใหญ่ครับ
การขี่จักรยานแล้วใช้พฤติกรรมแบบที่กล่าวถึงข้อห้าข้างบนนี้ มีค่าเท่ากับ คุณกำลังทำร้ายตัวเอง หรือ
คุณกำลังพยายามฆ่าตัวตายนั่นเองครับ
- ไฟล์แนบ
-
- G1teir[1].jpg (351.96 KiB) เข้าดูแล้ว 845 ครั้ง
-
- สมาชิก
- โพสต์: 29
- ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ส.ค. 2012, 18:52
- Tel: 0897061660
- Bike: Trek 6000
- ติดต่อ:
Re: ***กลุ่มสากเหล็ก***
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆครับ คำว่าจักรยานทางไกลควรมีระยะทางเท่าไรขึ้นไป จึงจะเรียกว่าเป็นจักรยานทางไกลครับ ถ้า200กม.แล้วขี่ไม่เกิน30/ชม 40กม.พักทีหนึ่ง ถือว่าเหมาะสมกับนักจักรยานทั่วไปหรือไม่ครับ
Everything is possible!!!
- hs6rpj
- ขาประจำ
- โพสต์: 690
- ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 21:12
- Tel: 0813790703
- Bike: trek
Re: ***กลุ่มสากเหล็ก***
Sumanas เขียน:ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆครับ คำว่าจักรยานทางไกลควรมีระยะทางเท่าไรขึ้นไป จึงจะเรียกว่าเป็นจักรยานทางไกลครับ ถ้า200กม.แล้วขี่ไม่เกิน30/ชม 40กม.พักทีหนึ่ง ถือว่าเหมาะสมกับนักจักรยานทั่วไปหรือไม่ครับ
คำว่าจักรยานทางไกลควรมีระยะทางเท่าไรขึ้นไป จึงจะเรียกว่าเป็นจักรยานทางไกลครับ ตัวอย่างครับ
วันนี้ปั่น13.00ชั่วโมง เริ่ม60.00ได้ระยะทาง149กม. จากอ.วังทรายพูน-เข้าค้อ
ผ่านเขาทราย ดงขุย ชนแดน เขารังสามแยกวังขมภู เพรชบูรณ์ นางั่ว
น้ำหนักของ รวมรถ42กล. ปั่นเดี่ยว ทางขึ้นเขาชัน ทางเลียบ70ล.นอกนั้นเขาช่วงนางั่ว เขาค้อชัน น้องๆ ภูทับเบิก
- ไฟล์แนบ
-
- 20140811_183312_resize.jpg (113.79 KiB) เข้าดูแล้ว 829 ครั้ง
-
- 20140811_183338_resize.jpg (116.7 KiB) เข้าดูแล้ว 829 ครั้ง
- hs6rpj
- ขาประจำ
- โพสต์: 690
- ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 21:12
- Tel: 0813790703
- Bike: trek
Re: ***กลุ่มสากเหล็ก***
ถ้า200กม.แล้วขี่ไม่เกิน30/ชม 40กม.พักทีหนึ่ง ถือว่าเหมาะสมกับนักจักรยานทั่วไปหรือไม่ครับ
แบบผมจำกัด กม.ไม่ได้ครับ ขึ้นอยู่กับกำลัง หรืออาการเจ็บก้น ท่าเริ่มเจ็บต้องพัก2-3นาทีอย่าผืน
ทางเลียบลมนิ่ง25 ลมสวน ลมตัต19-20-21ลมส่ง27-28 ขึ้นเขาชัน3-4-5
แบบผมจำกัด กม.ไม่ได้ครับ ขึ้นอยู่กับกำลัง หรืออาการเจ็บก้น ท่าเริ่มเจ็บต้องพัก2-3นาทีอย่าผืน
ทางเลียบลมนิ่ง25 ลมสวน ลมตัต19-20-21ลมส่ง27-28 ขึ้นเขาชัน3-4-5
- hs6rpj
- ขาประจำ
- โพสต์: 690
- ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 21:12
- Tel: 0813790703
- Bike: trek
Re: ***กลุ่มสากเหล็ก***
ปั่นเดี่ยว เที่ยวเขาค้อ.
14:32น.ผ่านเพรชบูรณ์
จากจุดนี้ไปราว10กม.บ้านนางั่วจะเลียวซาย
14:32น.ผ่านเพรชบูรณ์
จากจุดนี้ไปราว10กม.บ้านนางั่วจะเลียวซาย
- hs6rpj
- ขาประจำ
- โพสต์: 690
- ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 21:12
- Tel: 0813790703
- Bike: trek
Re: ***กลุ่มสากเหล็ก***
โหดสุดก็ตรงเนินมหศจรรณ
ดูในรูปเหมือนไม่ชัน แต่ปั่นไม่ไป หรือว่าเราหมดแรง เพราะ ปั่นมาทั้งวันแล้ว ด้วยน้ำหนัก42ล.
ตอนนี้เวลา17:50น.แล้ว เหลือไม่ถึงชั่วโมงจะมืดแล้ว
ดูในรูปเหมือนไม่ชัน แต่ปั่นไม่ไป หรือว่าเราหมดแรง เพราะ ปั่นมาทั้งวันแล้ว ด้วยน้ำหนัก42ล.
ตอนนี้เวลา17:50น.แล้ว เหลือไม่ถึงชั่วโมงจะมืดแล้ว
- hs6rpj
- ขาประจำ
- โพสต์: 690
- ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 21:12
- Tel: 0813790703
- Bike: trek
- hs6rpj
- ขาประจำ
- โพสต์: 690
- ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 21:12
- Tel: 0813790703
- Bike: trek
Re: ***กลุ่มสากเหล็ก***
http://www.taladrod.com/w20/Search/CarD ... ib=1426141
http://www.taladrod.com/w20/Search/CarD ... ib=1452874
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... &t=1019943
คอแข็ง
ขาอ่อน
นอนดึก
ตื่นสาย
บ่ายเดี้ยง
เที่ยงหลับ
ขยับช้า
ขี่แค่ไหล
ชัตเตอร์ไว
ไม่กลัวผี
ไม่มีท้อ
ไม่ฝ่อทางชัน
ไม่ยั่นทางไกล
หลงไหลธรรมชาติ
เห่อแบกบรรทุกหนัก
ไม่รักตัวช่วย
ปั่นบ้วย ได้ใจ
ไม่คลั่งไคล้ขาแรง
ไนท์ทริป จิบไม่เลิก หลักหลักของคนที่ชอบปั่นจักยานทัวริ่ง
http://www.taladrod.com/w20/Search/CarD ... ib=1452874
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... &t=1019943
คอแข็ง
ขาอ่อน
นอนดึก
ตื่นสาย
บ่ายเดี้ยง
เที่ยงหลับ
ขยับช้า
ขี่แค่ไหล
ชัตเตอร์ไว
ไม่กลัวผี
ไม่มีท้อ
ไม่ฝ่อทางชัน
ไม่ยั่นทางไกล
หลงไหลธรรมชาติ
เห่อแบกบรรทุกหนัก
ไม่รักตัวช่วย
ปั่นบ้วย ได้ใจ
ไม่คลั่งไคล้ขาแรง
ไนท์ทริป จิบไม่เลิก หลักหลักของคนที่ชอบปั่นจักยานทัวริ่ง
- ไฟล์แนบ
-
- bhq6wC[1].jpg (163.85 KiB) เข้าดูแล้ว 800 ครั้ง
- hs6rpj
- ขาประจำ
- โพสต์: 690
- ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 21:12
- Tel: 0813790703
- Bike: trek
Re: ***กลุ่มสากเหล็ก***
ท่านที่กำลังมองหาจักยานปั่นสักคัน .... http://www.google.co.th/url?sa=t&rct=j& ... 2E&cad=rja
วันนี้มีสูตรลดหน้าท้องมาบอกค่ะ อันนี้ได้ผลจริงๆ จากที่ลองมาสารพัด ทั้งโยเกิร์ต น้ำผึ้ง มะนาว สูตรดีทอกซ์ลำไส้ก็ไม่ลงค่ะ เม็ดแมงลัก ก็ไม่ลง บุก พริกไทยดำ ส้มแขก ส้มป่อย สารพัดค่ะ ไม่ลดค่ะ แต่อันนี้ได้ผลค่ะ หน้าท้องลดลงค่ะ การขับถ่ายดีขึ้น ท้องไม่ผูกค่ะ ลองทำดูนะคะ
++วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้++
1. มะนาว 10 ลูก
2. น้ำผึ้ง ครึ่ง(ขวดเหล้า)
3. เกลือ 1ถุง
++วิธีทำก็คือ++
1 นำเกลือมาถูกับผิวมะนาวประมาณ5-10 นาทีค่ะ เพื่อล้างความขมของเปลือกมะนาว แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำแล้วพักทิ้งไว้ให้ผิวมะนาวแห้ง
2 หั่นเป็นแว่นๆค่ะ แล้วนำไปเรียงไว้ในขวดแก้ว แล้วก็นำน้ำผึ้งเทลงไปให้ท่วมมะนาว เสร็จแล้วปิดฝาให้สนิทค่ะ
3 นำไปแช่ตู้เย็นเป็นเวลา3วัน ก็ใช้ได้แล้วค่ะ นำมาชงดื่มค่ะ
++วิธีการชง มีดังนี้ค่ะ++
ตักมะนาวที่เป็นแว่นๆมา1-2 ชิ้น และตักน้ำผึ้งที่หมักไว้1 ช้อนโต๊ะ แล้วผสมกับน้ำอุ่น น้ำเย็น (ถ้าให้ดีต้องใช้น้ำอุ่นค่ะ) ทานก่อนอาหารเช้า สักประมาณ 10นาที ค่ะ
ความรู้สึกที่ดื่มไปประมาณ1 อาทิตย์ โดยที่ไม่ได้ออกกำลังกาย คือ ระบบขับถ่ายดีขึ้นค่ะ หน้าท้องยุบลง ซึ่งตอนออกกำลังกายหน้าท้องจะไม่ค่อยลด น้ำหนักตัวจะลงมากกว่า แต่ทานเลมอนน้ำผึ้งไป รู้สึกได้ว่าหน้าท้องยุบลงไปจริงๆค่ะ แต่ยังไม่ได้ชั่งน้ำหนักดูว่า ลดลงไปหรือเปล่า? ลองทำดูกันนะคะ
credit: Beauty House ByMoMo
Like & Share เพื่อเป็นกำลังใจให้ Admin นะค่ะ
----------------------------------------------------
คลังอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ
https://www.facebook.com/trade.healthy
MC 2014 เปิดประตู AEC ไทย-พม่าภาคเหนือ เชียงราย-แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก(พม่า)-เชียงตุง-ตองยี่-อินเล-สีป้อ-มัณฑะเลย์ วันที่ 18 - 29 ตุลาคม
วันนี้มีสูตรลดหน้าท้องมาบอกค่ะ อันนี้ได้ผลจริงๆ จากที่ลองมาสารพัด ทั้งโยเกิร์ต น้ำผึ้ง มะนาว สูตรดีทอกซ์ลำไส้ก็ไม่ลงค่ะ เม็ดแมงลัก ก็ไม่ลง บุก พริกไทยดำ ส้มแขก ส้มป่อย สารพัดค่ะ ไม่ลดค่ะ แต่อันนี้ได้ผลค่ะ หน้าท้องลดลงค่ะ การขับถ่ายดีขึ้น ท้องไม่ผูกค่ะ ลองทำดูนะคะ
++วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้++
1. มะนาว 10 ลูก
2. น้ำผึ้ง ครึ่ง(ขวดเหล้า)
3. เกลือ 1ถุง
++วิธีทำก็คือ++
1 นำเกลือมาถูกับผิวมะนาวประมาณ5-10 นาทีค่ะ เพื่อล้างความขมของเปลือกมะนาว แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำแล้วพักทิ้งไว้ให้ผิวมะนาวแห้ง
2 หั่นเป็นแว่นๆค่ะ แล้วนำไปเรียงไว้ในขวดแก้ว แล้วก็นำน้ำผึ้งเทลงไปให้ท่วมมะนาว เสร็จแล้วปิดฝาให้สนิทค่ะ
3 นำไปแช่ตู้เย็นเป็นเวลา3วัน ก็ใช้ได้แล้วค่ะ นำมาชงดื่มค่ะ
++วิธีการชง มีดังนี้ค่ะ++
ตักมะนาวที่เป็นแว่นๆมา1-2 ชิ้น และตักน้ำผึ้งที่หมักไว้1 ช้อนโต๊ะ แล้วผสมกับน้ำอุ่น น้ำเย็น (ถ้าให้ดีต้องใช้น้ำอุ่นค่ะ) ทานก่อนอาหารเช้า สักประมาณ 10นาที ค่ะ
ความรู้สึกที่ดื่มไปประมาณ1 อาทิตย์ โดยที่ไม่ได้ออกกำลังกาย คือ ระบบขับถ่ายดีขึ้นค่ะ หน้าท้องยุบลง ซึ่งตอนออกกำลังกายหน้าท้องจะไม่ค่อยลด น้ำหนักตัวจะลงมากกว่า แต่ทานเลมอนน้ำผึ้งไป รู้สึกได้ว่าหน้าท้องยุบลงไปจริงๆค่ะ แต่ยังไม่ได้ชั่งน้ำหนักดูว่า ลดลงไปหรือเปล่า? ลองทำดูกันนะคะ
credit: Beauty House ByMoMo
Like & Share เพื่อเป็นกำลังใจให้ Admin นะค่ะ
----------------------------------------------------
คลังอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ
https://www.facebook.com/trade.healthy
MC 2014 เปิดประตู AEC ไทย-พม่าภาคเหนือ เชียงราย-แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก(พม่า)-เชียงตุง-ตองยี่-อินเล-สีป้อ-มัณฑะเลย์ วันที่ 18 - 29 ตุลาคม
- ไฟล์แนบ
-
- 1978790_712722448782290_5878292499470190299_n.jpg (50.97 KiB) เข้าดูแล้ว 753 ครั้ง
- hs6rpj
- ขาประจำ
- โพสต์: 690
- ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 21:12
- Tel: 0813790703
- Bike: trek
Re: ***กลุ่มสากเหล็ก***
สรุปผลการทดลอง
ที่ความเร็ว 35km/hr
ดูด หัวใจเต้น 120ครั้ง/นาที ออกแรง 120วัตต์
ลาก หัวใจเต้น 155ครั้ง/นาที ออกแรง 200วัตต์
ข้อคิดสำหรับมือไหม่หัดดูด
กัดฟันดูดไป คนลากเหนื่อยกว่าเรา เดียวมันก็หมด
ที่ความเร็ว 35km/hr
ดูด หัวใจเต้น 120ครั้ง/นาที ออกแรง 120วัตต์
ลาก หัวใจเต้น 155ครั้ง/นาที ออกแรง 200วัตต์
ข้อคิดสำหรับมือไหม่หัดดูด
กัดฟันดูดไป คนลากเหนื่อยกว่าเรา เดียวมันก็หมด
- ไฟล์แนบ
-
- sl303[1].jpg (276.4 KiB) เข้าดูแล้ว 731 ครั้ง
- ปูไทย
- ขาประจำ
- โพสต์: 229
- ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 11:59
- Tel: 0867342627
- team: phichit
- Bike: สามล้อแดง
- hs6rpj
- ขาประจำ
- โพสต์: 690
- ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 21:12
- Tel: 0813790703
- Bike: trek
Re: ***กลุ่มสากเหล็ก***
ร้าน น้องเมย์
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 3&t=934380
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 8&start=15
พ่อเมืองชัยนาทนำเอง ปั่นจักรยานเปิดเมืองชัยนาท เมืองแห่งธรรมชาติสวยงามน่าท่องเที่ยว เปิดจวนผู้ว่าฯเป็นแหล่งนัดพบนักปั่นสองล้อชวนคนไทยปั่นเพื่อสุขภาพ รักษ์โลก
ที่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าศาลากลางจังหวัดชัยนาท วันที่ 3 ส.ค.2557 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท เป็นประธานเปิดการแข่งขันจักรยาน.."ปั่นเปิดเมืองชัยนาท2014" โดยมีนักปั่นทั่วประเทศเข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 3,000 คน โดย นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่าการแข่งขันปั่นเปิดเมืองชัยนาทครั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมการขี่จักรยานเพื่อการออกกำลังกาย เพื่อส่งเสริมสุขภาพอนามัย สร้างความรักความปรองดอง และเป็นการประกาศตอกย้ำจุดยืนจังหวัดชัยนาทเป็นเมืองแห่งธรรมชาติ สะอาด บริสุทธิ์ สวยงาม เหมาะแก่การมาท่องเที่ยงเชิงธรรมชาติ ซึ่งการที่ทุกภาคส่วนได้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ถือการส่งเสริมการปั่นจักรยานในชีวิตประจำวันอย่างเต็มที่แล้ว ยังเป็นการรณรงค์ให้ทุกคนหันมาดูแลสุขภาพที่ดีของตัวเอง และเป็นการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดชัยนาท นอกจากนี้ตนยังได้เปิดจวนผู้ว่าฯให้เป็นจุดรวมพลทุกเย็นวันอังคารและพฤหัสบดีเวลา 17.00 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่นักปั่นทั้งในและต่างจังหวัด
ผู้ว่าฯชัยนาท กล่าวด้วยว่าการจัดงานในวันนี้เราต้องการให้พี่น้องจักรยานได้มาพบปะกับดินแดนแห่งจักรยานที่สวยงามและคนไม่รู้จักอย่างชัยนาทก็จะได้รับรู้สิ่งดีๆของจังหวัดชัยนาทยังมีให้ทุกคนได้ค้นหา และยังเป็นการเปิดประตู่ไปสู่ให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกได้รับรู้ โดยอนาคตจังหวัดชัยนาทจะให้มีการเปิดเมืองโดยการปั่นจักรยานอย่างน้อยปีละ 3 ครั้งเพื่อเปิดเมืองชัยนาททั้งหน้าฝน หน้าหนาว และหน้าร้อน ซึ่งไม่ว่าฤดูกาลใดก็สวยงามด้วยธรรมชาติแห่งท้องทุ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา
“อย่างไรก็ดีหากท่านใดที่ไม่สะดวกมาปั่นเปิดเมืองที่จังหวัดชัยนาทด้วยกัน ผมก็ขอเชิญชวนให้ทุกท่านใช้จักรยานเป็นทางเลือกของการออกกำลังกายหรือใช้ชีวิตประจำวันนะครับ ที่นอกจากท่านจะได้รักตัวเองให้มีสุขภาพที่ดีแล้วยังช่วยรักษ์โลกอีกทางหนึ่งด้วย” นายสุทธิพงษ์กล่าวทิ้งท้าย
ทุกจังหวัดทั่วประเทศน่าจะเอาแบบอย่าง ถ้าแบบนี้จักรยานไปโรด แต่ก็อีกนั่นแหละภาพลักษณ์นักจักรยานก็เพียงออกกำลังกาย ยังไม่ใช่วิถีชีวิต ทำอย่างไรจึงจะเป็นวิถีชีวิตนี่ละครับคือโจทย์ที่นักจักรยานควรร่วมกันหาและนำมาเพื่อใช้ให้เป็นแบบอย่าง ? ถ้าคนส่วนใหญ่หันมาใช้จักรยานบ้านเมืองเราคงดีขึ้นมาก ๆ ทุก ๆ ด้านรับประกันครับ
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 3&t=934380
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 8&start=15
พ่อเมืองชัยนาทนำเอง ปั่นจักรยานเปิดเมืองชัยนาท เมืองแห่งธรรมชาติสวยงามน่าท่องเที่ยว เปิดจวนผู้ว่าฯเป็นแหล่งนัดพบนักปั่นสองล้อชวนคนไทยปั่นเพื่อสุขภาพ รักษ์โลก
ที่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าศาลากลางจังหวัดชัยนาท วันที่ 3 ส.ค.2557 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท เป็นประธานเปิดการแข่งขันจักรยาน.."ปั่นเปิดเมืองชัยนาท2014" โดยมีนักปั่นทั่วประเทศเข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 3,000 คน โดย นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่าการแข่งขันปั่นเปิดเมืองชัยนาทครั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมการขี่จักรยานเพื่อการออกกำลังกาย เพื่อส่งเสริมสุขภาพอนามัย สร้างความรักความปรองดอง และเป็นการประกาศตอกย้ำจุดยืนจังหวัดชัยนาทเป็นเมืองแห่งธรรมชาติ สะอาด บริสุทธิ์ สวยงาม เหมาะแก่การมาท่องเที่ยงเชิงธรรมชาติ ซึ่งการที่ทุกภาคส่วนได้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ถือการส่งเสริมการปั่นจักรยานในชีวิตประจำวันอย่างเต็มที่แล้ว ยังเป็นการรณรงค์ให้ทุกคนหันมาดูแลสุขภาพที่ดีของตัวเอง และเป็นการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดชัยนาท นอกจากนี้ตนยังได้เปิดจวนผู้ว่าฯให้เป็นจุดรวมพลทุกเย็นวันอังคารและพฤหัสบดีเวลา 17.00 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่นักปั่นทั้งในและต่างจังหวัด
ผู้ว่าฯชัยนาท กล่าวด้วยว่าการจัดงานในวันนี้เราต้องการให้พี่น้องจักรยานได้มาพบปะกับดินแดนแห่งจักรยานที่สวยงามและคนไม่รู้จักอย่างชัยนาทก็จะได้รับรู้สิ่งดีๆของจังหวัดชัยนาทยังมีให้ทุกคนได้ค้นหา และยังเป็นการเปิดประตู่ไปสู่ให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกได้รับรู้ โดยอนาคตจังหวัดชัยนาทจะให้มีการเปิดเมืองโดยการปั่นจักรยานอย่างน้อยปีละ 3 ครั้งเพื่อเปิดเมืองชัยนาททั้งหน้าฝน หน้าหนาว และหน้าร้อน ซึ่งไม่ว่าฤดูกาลใดก็สวยงามด้วยธรรมชาติแห่งท้องทุ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา
“อย่างไรก็ดีหากท่านใดที่ไม่สะดวกมาปั่นเปิดเมืองที่จังหวัดชัยนาทด้วยกัน ผมก็ขอเชิญชวนให้ทุกท่านใช้จักรยานเป็นทางเลือกของการออกกำลังกายหรือใช้ชีวิตประจำวันนะครับ ที่นอกจากท่านจะได้รักตัวเองให้มีสุขภาพที่ดีแล้วยังช่วยรักษ์โลกอีกทางหนึ่งด้วย” นายสุทธิพงษ์กล่าวทิ้งท้าย
ทุกจังหวัดทั่วประเทศน่าจะเอาแบบอย่าง ถ้าแบบนี้จักรยานไปโรด แต่ก็อีกนั่นแหละภาพลักษณ์นักจักรยานก็เพียงออกกำลังกาย ยังไม่ใช่วิถีชีวิต ทำอย่างไรจึงจะเป็นวิถีชีวิตนี่ละครับคือโจทย์ที่นักจักรยานควรร่วมกันหาและนำมาเพื่อใช้ให้เป็นแบบอย่าง ? ถ้าคนส่วนใหญ่หันมาใช้จักรยานบ้านเมืองเราคงดีขึ้นมาก ๆ ทุก ๆ ด้านรับประกันครับ
- ไฟล์แนบ
-
- aeA4jn[1].jpg (232.81 KiB) เข้าดูแล้ว 699 ครั้ง
-
- สมาชิก
- โพสต์: 29
- ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ส.ค. 2012, 18:52
- Tel: 0897061660
- Bike: Trek 6000
- ติดต่อ:
- hs6rpj
- ขาประจำ
- โพสต์: 690
- ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 21:12
- Tel: 0813790703
- Bike: trek
- hs6rpj
- ขาประจำ
- โพสต์: 690
- ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 21:12
- Tel: 0813790703
- Bike: trek
Re: ***กลุ่มสากเหล็ก***
- ไฟล์แนบ
-
- jYrZc6[1].jpg (34.07 KiB) เข้าดูแล้ว 651 ครั้ง