Thanks: ฝากรูป
เมื่อสายใยแห่งชีวิตถูกกำหนดให้เดินทางมาพบกัน
ในเวลายามเย็นที่สนามบินใหม่ ตั้งอยู่ในเขตเมืองพิษณุโลก และเป็นสถานที่นัดพบของบรรดานักจักรยานทั้งขาแรง ทั้งนักจักรยานที่ปั่นเพื่อสุขภาพ ตลอดจนเด็กเล็ก ๆ มาร่วมปั่นจักรยานกับครอบครัว สนามบินใหม่พิษณุโลก จึงเป็นที่มาของกลุ่มจักรยานยามเย็นสนามบินใหม่ แอร์พอร์ตกรุ๊ป มีสมาชิกร่วมร้อยชีวิตจากจุดเริ่มต้นเพียงคนไม่กี่คนที่ปั่นจักรยาน ทักทายไหว้สาสวัสดีครับให้แด่กัน สายสัมพันธ์อันเป็นเส้นใยแห่งความดีได้เรียงร้อยใจคนรักจักรยานให้หลอมรวมเป็นหนึ่งพลังกลุ่มใหญ่ คอยดูแลเกื้อหนุนเด็ก ๆ ที่มาปั่นจักรยาน ข้าพเจ้านั้น ทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกซ้อมนักจักรยานอยู่ในสนามบินใหม่เป็นประจำทุกวัน ในยามเย็น ๆ จะขับมอเตอร์ไซค์นำหน้านักจักรยาน เพื่อให้เด็กนักกีฬาที่ทำการฝึกซ้อมได้อาศัยฝึกรอบขาให้เร็วขึ้น และในวันหนึ่งนั้นที่พบกับเด็กชายปรมัติ สุคตินาถ ที่บริเวณสนามบินใหม่ก็เช่นกัน เราจะพบกันแบบโดยบังเอิญ เห็นกันทางฝั่งตรงข้ามเส้นทางเสมอ ๆ และเมื่อเห็นเด็กชายแล้ว ใจหนึ่งก็ประสงค์ขึ้นมาทันที่ว่าจะขับรถมอเตอร์ไซค์วิ่งตามไปสอบถามให้ได้ว่า สนใจจะมาปั่นจักรยานฝึกซ้อมด้วยกันไหม
แต่ในขณะที่ความประสงค์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลาเดียวกันกับตอนที่กำลังขับมอเตอร์ไซค์ให้เด็กจักรยานจี้ท้ายรถฝึกรอบขา ฉันไม่สามารถหยุดรถเพื่อตามไปสอบถามเด็กชายได้ ยังคงได้แต่คิดอยู่เพียงฝ่ายเดียว ว่า เด็กคนนี้ ถ้ามาปั่นจักรยานด้วยกัน ฝึกซ้อมจักรยานด้วยกัน คงไปได้ไกลแน่ เนื่องจากสรีระร่างกายนั้น เหมาะสมกับกิจกรรมการปั่นจักรยานอย่างยิ่ง ด้วยรูปร่างที่สูง ด้วยกล้ามเนื้อที่สมบูรณ์พร้อมไปด้วยริ้วรอยของการเจริญเติบโตของเส้นใยกล้ามเยื้อในเส้นทางของการมีน้ำอดน้ำทน คงไม่ยากนักที่จะเริ่มสร้างความฝันจากจุดเริ่มต้นด้วยความเพียรได้...
Thanks: ฝากรูป
การคิดถึงอนาคตการปั่นจักรยานของเด็กชาย ก็ยังคงเป็นการคิดอยู่แต่เพียงฝ่ายเดียวอยู่ร่ำไป เนื่องจากการพบกันในแต่ละครั้ง เราไม่สามารถที่จะหยุดเพื่อพูดคุยกันได้ เพื่อสอบถามกันได้ เนื่องจากเหตุผลที่ว่า ข้าพเจ้าต้องทำหน้าที่ในการฝึกซ้อมจักรยานในห้วงเวลานั้น ส่วนเด็กชายก็ปั่นจักรยานอยู่ฝั่งตรงข้ามเส้นทางเสมอ ๆ และมาถึงในวันนี้ก็เช่นกัน ได้แต่เพียงนึกคิดและแอบเหลียวมองดูกระจกหลังอย่างเดียว ว่าเด็กชายปั่นไปถึงไหนกัน
( ขออธิบายเพิ่มเติมเพื่อแทรกการเล่าเรื่องถึงความยากในการพูดคุยกันในขณะที่พบเห็นกันนั้น เนื่องจากข้าพเจ้าพบเด็กแต่ละคน ในห้วงขณะที่กำลังทำการฝึกซ้อมจักรยานให้กับเด็กนักกีฬาประจำทีม ที่อยู่ในทีม ฉะนั้น โอกาสที่จะจอดรถมอเตอร์ไซค์เพื่อพูดคุยสอบถาม แทบจะเป็นไปได้ยาก เนื่องจากเราต้องคอยระวังเรื่องอุบัติเหตุ หรือติดพันในเรื่องของการฝึกซ้อม เมื่อเป็นไปเช่นนี้แล้ว โอกาสที่จะจอดรถมอเตอร์ไซค์แล้วเรียกเด็กที่พบมาพูดคุยชวนกันมาฝึกซ้อม จึงเป็นเรื่องยากประการหนึ่งดังที่ได้เล่าแทรกให้ฟังครับ )
''การพบกันนั้น ข้าพเจ้าจึงได้ตั้งจิตประการหนึ่งที่เป็นเรื่องของความศรัทธาของตนเอง ถ้าเด็กมีโอกาสที่จะได้เป็นนักจักรยาน เราคงได้พบกัน''
เย็นย่ำค่ำแล้วก่อนกลับบ้าน บริเวณสนามบินใหม่จึงเป็นจุดนัดพบรวมพลจักรยานทั้งเก่าใหม่ หลายสิบชีวิตพูดคุยกันท่ามกลงแสงที่ไร้พลังงาน เป็นแสงมืดยามเย็นอันไม่ถูกแตะต้องจากแหล่งพลังงานการไฟฟ้า เนื่องจากนโยบายประหยัดพลังงานของทางสนามบิน เวลามืดช่วงยามเย็นจึงมีฝูงบินต่ำชนิดหนึ่งที่เราเรียกกันติดปาก ฝูงบินต่ำนั้นคือยุง ที่คอยรบกวนระบบการพูดคุยกันอย่างยิ่ง กลุ่มเรากำลังพูดคุยกันไปก็เดินไปโน่นบ้างนี่บ้างเพื่อสลับพื้นที่มิให้ยูงมากวนใจ ในขณะที่เดินหลีกเลี่ยงการก่อกวนของกลุ่มยูงฝูงบินต่ำอยู่นั้น สายตาก็แลเห็นเด็กชายคนสองคน คนหนึ่งร่างใหญ่โต อีกคนหนึ่งสูงยาว กำลังปั่นจักรยานยกหน้ายกล้อเล่นบริเวณใกล้ ๆ กับที่ฉันยืน
''หนู ๆ มานี่ก่อนสิ''
จำได้ว่า คำทักทายแรกที่เริ่มพูดคุยกันนั้น เป็นคำพูดที่ออกมาจากในใจอย่างเรียบง่าย ภาษาธรรมดา ไม่พิธีรีตองหรือไม่อวดตนแต่ประการใด จากนั้น คำพูดชักชวนให้มาฝึกจักรยานร่วมกันกับเด็กศูนย์ฝึกจักรยานกองบิน 46 บ้านที่ข้าพเจ้าปลูกต้นไม้แห่งความเพียรนี้ มานานแสนนานจนจำได้หมายรู้ถึงคำของโค้ชรุ่นพี่ที่ชื่อว่า สมศักดิ์ พรพรรณ โค้ชจักรยานทีมชาติไทยเคยกล่าวกับข้าพเจ้าว่า
วันหนึ่ง คนเก่งจริงจะเดินมาหาเราเอง...
ฉันไม่รู้ว่า เด็กคนนี้จะเก่งหรือไม่เก่งในเชิงกีฬา แต่นี้คือหน้าที่ของเราที่จะปลูกต้นไม้ให้เป็นผลผลิตที่เป็นผลผลิตของความเพียร....
ชัยชนะ ที่เราได้รับมาหรือยังไม่เคยหยิบรับชัยชนะ ความหมายอันสำคัญอย่างยิ่งของชัยชนะนั้น คือสิ่งที่เราจะสามารถสื่อสารให้เกิดความเข้าใจในเนื้อหาของจิตวิญญาณในความเป็นมนุษย์ แน่นอนใช่หรือไม่ว่าเราเคยแพ้ ยามใดที่เราเห็นคู่ตรงข้ามกำชัยชนะเหนือการแข่งขัน ยามใดที่เราเห็นเสียงปรบมือยกย่องของคนทั่วโลกดังกึกก้องไปทั่วผืนแผ่นดิน ยามนั้นเราต้องหวนกลับมาดูคนที่พ่ายแพ้ให้มากยิ่งขึ้น มาสวมกอดเขา ให้กำลังใจเขา เพราะสิ่งที่เราแข่งขันกันอยู่นี้ มิใช่แข่งขันที่เรื่องการอวดตนว่าเก่งหรือไม่เก่ง แต่เราแข่งขันกันตามสมรรถภาพในความเป็นมนุษย์ ในความสมบูรณ์ คุณคือคู่แข่งขันของเรา แต่คุณก็ได้ทำอย่างสมบูรณ์ที่สุดแล้ว ถึงแม้นว่าผมจะชนะ แต่ผมก็มิได้เก่งกว่าคุณในการแข่งขัน เพราะเราต่างก็ทำได้อย่างสมบูรณ์ที่สุดแล้วของกันและกัน''ยามใดที่เราเห็นเสียงปรบมือยกย่องของคนทั่วโลกดังกึกก้องไปทั่วผืนแผ่นดิน ยามนั้นเราต้องหวนกลับมาดูคนที่พ่ายแพ้ให้มากยิ่งขึ้น ''
....
ชัยชนะที่แท้จริง คือการโอบกอดให้กำลังใจคนพ่ายแพ้ จับมือร่วมกันชูกำปั้นเหนือศีรษะด้วยกัน เพราะเราแข่งขันกันทางกายภาพ แข่งขันกันทางเทคโนโลยี แข่งขันกันทางความสามารถในความสมบูรณ์ของร่างกาย มิใช่แข่งขันกันทางจิตวิญญาณ
เมื่อจิตวิญาณเราปราศจากซึ่งการแข่งขัน ความอหังการในชัยชนะย่อมไร้ความหมาย ผลผลิตของชัยชนะ จึงเป็นผลผลิตที่เกิดขึ้นจากความเพียร ความพยายาม ความมีระเบียบวินัย ความวิริยะอุตสาหะ ความมุ่งมั่นปรารถนา ความอดทนอดกลั้น ทุก ๆ อย่างคือเรื่องของความเพียร เพราะชีวิตหนึ่งนี้นั้น หากขาดซึ่งความเพียรแล้วไซร้ จะยากอย่างยิ่งที่จะดำรงชีวิตให้เป็นปกติสุขได้
เช่นกัน จิตวิญาณในการเขียนงานรับใช้ความดีงามนี้ ก็มิได้เดินทางมาอวดตนอวดอ้างว่าเราจะเป็นเลิศในอนาคตแต่ประการใดก็หาไม่ การเขียนงานแห่งชีวิตเล่มนี้ จึงเป็นการเขียนบันทึกจากจุดเริ่มต้นที่ได้มีโอกาสปลูกต้นไม้แห่งความดีงาม ดังคำที่เคยเขียนเป็นแนวทางไว้ว่า ไม้อ่อนดัดได้ด้วยความดีงาม เราควรที่จะปลูกต้นรักและเฝ้าทำนุบำรุงให้เจริญงอกงามไปได้ ด้วยความดีงาม
นั้นจึงเป็นวัตถุประสงค์ที่ขึ้นเหนือพ้นเรื่องการอวดตน แต่เป็นการร่วมกันเฝ้าบำรุงต้นไม้ต้นหนึ่งนี้ ให้ได้มีโอกาสเจริญเติบโตเป็นร่มเงาให้กับผืนแผ่นดินในกาลสืบไป แทนที่เราผู้เดินทางด้วยความเพียร....