คลายเครียด.....

ผู้ดูแล: เสือชอร์

กฏการใช้บอร์ด
ชมรมจักรยานจังหวัดกาญจนบุรี
ผู้ดูแลบอร์ด โทร 0813722240
pimp*
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 112
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ก.ย. 2010, 23:39
team: อิสระ
Bike: pinarello

Re: คลายเครียด.....

โพสต์ โดย pimp* »

โน๊ตรักบรรทัดที่หนึ่ง.. :D
รูปภาพ



[youtube]9c5QiOWizE8&feature=related[/youtube]





[youtube]nk9-VBwZLPw&feature=related[/youtube]



[youtube]MrLKP_XQPCQ&NR=1[/youtube]

[youtube]RpD0ctz1whI&feature=related[/youtube]





แก้ไขล่าสุดโดย pimp* เมื่อ 08 ก.พ. 2011, 23:14, แก้ไขแล้ว 7 ครั้ง
รูปประจำตัวสมาชิก
Kai kanbike
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 2205
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2010, 13:17
Tel: 0924936836
team: ชมรมจักรยานจังหวัดกาญจนบุรี
Bike: bianchi-dahon-giant-chevrolet
ตำแหน่ง: 624 กาญจนบุรีวิลล่า อ.เมืองกาญจนบุรี

Re: คลายเครียด.....

โพสต์ โดย Kai kanbike »

เคล็ดลับแม่บ้าน

1.ไข่ขาวสามารถใช้รักษาแผลน้ำร้อนลวกได้ จริงหรือ


เฉลย
จริง โดยใช้ไข่ขาว มาทาที่น้ำร้อนลวกให้ทั่วทิ้งไว้จนแห้ง ไปเอง แล้วรอสักพักใหญ่ๆ จึงล้างออกจะไม่มีรอยแดง หรือพองเลย ข้อสำคัญ ก่อนทาไข่ขาวอย่าให้ถูกน้ำเย็นหรือของอื่นเลย และอย่าไปแกะ หรือเกาตอนที่ใกล้จะแห้ง เพราะจะทำให้หนังถลอก

2.ยาหม่องสามารถใช้ขจัดหมากฝรั่งเปื้อนผ้าได้ จริงหรือ


เฉลย
จริง โดยการใช้ยาหม่องถูตรงยางเหนียวๆ ของหมากฝรั่งไปมา ไม่นานยางของหมากฝรั่งก็จะหลุดออกหมด แล้วจึงนำผ้าไปซักตามปกติ

3.ใส่หลอดในขวดซอสมะเขือเทศจะทำให้เทออกง่าย จริงหรือ


เฉลย
จริง โดยการใส่หลอดลงไปให้ลึกถึงก้นขวด เพื่อให้อากาศสามารถแทรกผ่าน เข้าไปในขวดได้ แล้วเทซอสมะเขือเทศ ก็จะไหลออกมาง่ายขึ้น

4.ถุงน่องแช่น้ำเกลือช่วยให้ถุงน่องไม่ขาดง่าย จริงหรือ


เฉลย
จริง โดยการนำเกลือ 2 ถ้วยผสมกับน้ำ 1 แกลอน แช่ถุงน่องใหม่ไว้นาน 3 ชั่วโมง แล้วล้างด้วยน้ำเย็น ยกถุงน่องขึ้น มาตากให้น้ำหยดจนแห้ง ก็จะทำให้ถุงน่องคงสภาพ และเหนียวทนนาน

5.มันฝรั่งกำจัดกลิ่นปลาร้าติดมือได้ จริงหรือ


เฉลย
ไม่จริง แต่มันฝรั่งสามารถกำจัดกลิ่นหัวหอมติดมือได้ โดยการนำมันฝรั่งที่ปอกแล้ว มาถูมือที่มีกลิ่นหัวหอมติดอยู่ กลิ่นหัวหอมก็จะค่อยๆ จางหายไป

6.พริกแห้งใช้ไล่แมลงวันได้ จริงหรือ


เฉลย
จริง เวลาตากของแห้งไว้ จะมีแมลงวันมาตอม ให้เอาพริกแห้ง 5 - 6 เม็ด เสียบไว้รอบกระด้ง ไอร้อนของพริก จะทำให้แมลงวันไม่กล้าเข้าใกล้

7.เบียร์ช่วยคลายเกลียวขึ้นสนิมได้


เฉลย
จริง ให้รินเบียร์ลงไปบนเกลียวขึ้นสนิมนิดหน่อย รอ 2-3 นาที ความเป็นกรดของเบียร์ จะช่วยขจัดสิ่งสกปรก และเศษสนิม ทำให้เกลียวหมุนเปิดได้ง่ายขึ้น

8.เอาผ้าไหมแช่ช่องแข็งจะทำให้รีดง่าย จริงหรือ


เฉลย
จริง การรีดผ้าไหม ควรใช้ไฟอ่อนๆ เพราะผ้าไหมจะไหม้เกลียม หรือเป็นสีเหลืองได้ง่าย แต่ถ้าผ้าไหมยับมาก ก่อนรีดควรฉีดพรมน้ำยาให้ทั่ว แล้วพับใส่ถุงพลาสติก นำไปแช่ในช่องแข็งของตู้เย็น ประมาณ 10 -15 นาที แล้วจึงนำออกมารีด จะทำให้รีดผ้าไหมได้ง่าย และเรียบยิ่งขึ้น

9.นำเหรียญสลึงใส่แจกันช่วยให้ดอกไม้ไม่เหี่ยวเฉาได้ จริงหรือ


เฉลย
จริง โดยให้หย่อนเหรียญสลึงลงไปในแจกัน ส่วนผสมที่เป็นทองแดงในเหรียญ จะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุให้ดอกไม้เหี่ยวเฉา

10.ใบฝรั่งช่วยดูดกลิ่นได้ จริงหรือ


เฉลย
จริง โดยให้นำใบฝรั่งมาตำให้ละเอียดคั้นเอาแต่น้ำ แยกกากใบออก น้ำมันหอมระเหยที่ได้ จะทำหน้าที่ดับกลิ่น ส่วนกากใบที่ได้ให้นำไปวางไว้ตามจุดต่างๆ เพื่อช่วยดูดกลิ่นได้

************************
แก้ไขล่าสุดโดย Kai kanbike เมื่อ 01 ก.พ. 2011, 18:08, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
การถาม... อาจทำให้คุณดูโง่...แค่ชั่วคราว แต่การไม่ถาม...อาจทำให้คุณโง่ได้อย่าง...ถาวร
รูปประจำตัวสมาชิก
sun_dayhappy
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 124
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2010, 12:10
Tel: ---
team: อิสระ
Bike: BMX
ตำแหน่ง: บ้านหลังน้อยๆ

Re: คลายเครียด.....

โพสต์ โดย sun_dayhappy »

รูปภาพ


รูปภาพ

เทคนิคการรักษาแผลให้หายไวๆ

อันแรกเลยคือ รักษาความสะอาดของแผลให้ดี ทันทีที่เกิดแผล ให้ล้างแผลด้วยน้ำสะอาด ใส่ยาฆ่าเชื้อเช่นพวกBetadine ปิดแผลอย่าให้ถูกสิ่งสกปรก หรือฝุ่นละออง
อันที่สอง คือ รักษาแผลให้แห้ง อย่าให้แผลเปียกน้ำ ถ้าหากเปียกน้ำต้องรีบเช็ดด้วยผ้าหรือสำลีปลอดเชื้อให้แห้ง แล้วใส่ยาฆ่าเชื้อ

โดยทั่วๆไปแล้วแผลจะหายเร็วหรือช้า ขึ้นกับว่าแผลใหญ่เล็กแค่ไหน กว้างแคบอย่างไร รวมไปถึงสกปรกมากน้อยประการใด และเป็นแผลที่ส่วนไหนของร่างกาย

ถ้าเป็นแค่แผลถูกของมีคมบาด และสามารถดึงให้ขอบแผลมาชนกันได้ แผลไม่สกปรก และได้รับการดูแลเป็นอย่างดี แผลจะติดกันภายในเวลา 5 - 10 วัน ( ขึ้นกับว่าเป็นบริเวณที่เลือดมาเลี้ยงมากแค่ไหน และแผลอยู่นิ่งดีอย่างไร เช่นที่หน้า จะหายใน 5 วัน ตามแขนขาก็อาจจะถึง 10 วัน )

ส่วนพวกแผลหนังขาดหรือแผลถลอกลึกหนังขาด โดยทั่วไปก็ประมาณ 14 วัน ( นับรวมแผลที่ตกสะเก็ด จนสะเก็ดลอกหลุดและหายดีนะ )

ถ้าเป็นแผลที่สกปรกหรือติดเชื้อ แผลจะบวมแดง ปวด มีวี่แววของการอักเสบ ก็ควรไปพบแพทย์ เพื่อการรักษาที่เหมาะสม เช่น อาจจะต้องรับประทานยาปฏิชีวะนะ เป็นต้นคะ


ดูแลตัวเองดี ๆ นะ
ฝากอีกเรื่องนะคะ

เผย 5 เคล็ด(ไม่)ลับ เลือกอาหารเพื่อสุขภาพตามช่วงอายุ

ช่วยให้สุขภาพดี ต้านอนุมูลอิสระ ห่างโรค

รูปภาพ


ปัจจุบันการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพในชีวิตประจำวัน เช่น บริโภคผักและผลไม้เป็นประจำทุกวัน โดยเลือกผักและผลไม้ที่มีสีต่างๆกัน ทำให้ร่างกายได้รับเส้นใยอาหารแลพไฟโตเคมิคัลที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านออกซิแดนท์ เช่น ไลโคฟีนในมะเขือเทศ แคโรทีนอยด์ในแครอท และคลอโรฟิลด์ในผักใบเขียว สารออกซิแดนท์เป็นสาเหตุของการแก่ก่อนวัยและการเกิดโรคภัยต่างๆ ความนิยมบริโภคถั่วเหลือง แหล่งโปรตีนจากพืชซึ่งปลอดภัยมากกว่าโปรตีนจากสัตว์ และการบริโภคน้ำมันพืชมีกรดไขมันจำเป็น พบมากในน้ำมันมะกอก รำข้าว ทานตะวัน และน้ำมันงา โดยเฉพาะการได้รับวิตามินอีซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ปัจจุบันน้ำมันพืชเข้ามามีบทบาทต่อผู้รักสุขภาพอย่างขาดไม่ได้

เคล็ดไม่ลับ 5 วิธีการเลือกอาหารเพื่อสุขภาพตามช่วงอายุ



การรู้จักเลือกรับประทานอาหารไม่เพียงแต่ช่วยเรื่องสุขภาพเท่านั้น หากยังเอื้อต่อความสวยความงามอีกด้วย ความจริงการเลือกอาหารให้เหมาะสมตามช่วงวัยก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้สุขภาพดีได้ เพราะในแต่ละช่วงอายุมีความแตกต่างกันในด้านพัฒนาการของร่างกายและลักษณะการดำเนินชีวิต วันนี้จึงขอเสนอเรื่องราวของอาหารที่เกี่ยวข้องกับช่วงอายุทั้ง 4 ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใดที่คุณจะลองทำตาม



วัยที่ขึ้นต้นด้วยเลข 2 ช่วงอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไปเป็นช่วงที่ร่างกายมีการพัฒนาและเติบโตเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน การทำงาน และเป็นวัยที่ใช้ชีวิตอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ยิ่งมีการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันมากเท่าไร ร่างกายก็ยิ่งเผาผลาญและใช้พลังงานมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น ควรเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม โดยเลือกรับประทานจำพวกเนื้อสัตว์และถั่วต่างๆ รวมถึงข้าวและแป้งมากเป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วยผักผลไม้เป็นอันดับสอง ส่วนนมและอาหารทดแทนแคลเซียมต่างๆ เช่น เต้าหู้ ปลาเล็กปลาน้อย นมถั่วเหลืองเสริมแคลเซียม ตามมาเป็นอันดับสาม และให้ความสำคัญของไขมันเป็นอันดับสุดท้าย ปลาเป็นอาหารสมองที่ช่วยรักษาผนังเซลล์ประสาทในสมองให้แข็งแรง ไม่หลงลืมอะไรง่ายๆ ผักสีเขียวอย่างผักบุ้ง ผักกระเฉด ผักคะน้า ถั่วฝักยาว ช่วยบำรุงสายตา สร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ผักผลไม้สีเหลืองอย่างกล้วยหอมก็ถือเป็นผลไม้คลายเครียดชนิดหนึ่ง



วัยที่ขึ้นต้นด้วยเลข 3 อายุขึ้นเลข 3 หลายคนเริ่มตกใจกลัว แต่การรู้จักเลือกรับประทานจะทำให้ผู้อื่นไม่สามารถเดาอายุคุณจากรูปร่างหน้าตาได้เลย ในช่วงเริ่มวัยผู้ใหญ่ความต้องการพลังงานยังคงอยู่ เพราะเป็นช่วงชีวิตของการทำงาน แต่ต้องเพิ่มความระมัดระวังในเรื่องของไขมันและโคเลสเตอรอลที่จะส่งผลกระทบกับรูปร่างหน้าตาภายนอกที่เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายในอนาคตด้วย เพราะการรับประทานอาหารที่มีไขมันหรือโคเลสเตอรอลสูง เช่น หมูสามชั้น เนยแข็ง กะทิ เนยเทียม เป็นต้น จะสร้างปัญหาให้หลอดเลือดและหัวใจ แต่คุณสามารถเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยลดไขมันและโคเลสเตอรอล เช่น ปลาทะเล ช่วยลดความดันโลหิต พวกถั่วเมล็ดแห้งอย่างถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจ และมีโปรตีนสูงเพื่อให้พลังงานแทนสัตว์ใหญ่ได้อีก อาหารจำพวกข้าว ธัญพืชไม่ขัดสี อย่างข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีท มีใยอาหารสูง ช่วยให้อิ่มท้องนานและส่งผลดีต่อระบบลำไส้



วัยที่ขึ้นต้นด้วยเลข 4 วัยทองถูกเรียกแทนวัย 40 ปีขึ้นไป เนื่องจากสภาพร่างกายเริ่มเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะผู้หญิง ส่วนผู้ชายวัยนี้ก็จะเริ่มมีโรคต่างๆที่ไม่เคยออกอาการ ซึ่งเรียกกันว่าเป็น “วิถีทางธรรมชาติ” แต่ทั้งนี้การชะลอวัยหรือป้องกันโรคต่างๆที่มากับวัยไม่ได้ยุ่งยากเกินกว่าที่เราจะทำได้ สำหรับช่วงวัยนี้ความต้องการพลังงานจะลดลง แต่ความต้องการแคลเซียมและวิตามินต่างๆเพิ่มขึ้น ซึ่งจะได้รับจากผักผลไม้ที่มีกากใยอาหารสูง แล้วยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างวิตามินซีจากอาหารที่หารับประทานได้ง่าย เช่น ส้ม ฝรั่ง มะเขือเทศ แคนตาลูป ส่วนอาหารที่มีวิตามินอี ได้แก่ น้ำมันพืช เนยถั่ว ถั่วลิสง อัลมอนด์ นอกจากนี้ควรรับประทานเต้าหู้ โปรตีนไขมันต่ำ ซึ่งให้แคลเซียมมากกว่าเนื้อสัตว์อย่างอื่น แต่ไม่ควรลืมหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นตัวเร่งความแก่ให้เร็วขึ้น เช่น อาหารไขมันสูงประเภททอดกรอบหรือผัดน้ำมันมากๆ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มกาเฟอีนทั้งหลาย



วัยที่ขึ้นต้นด้วยเลข 5 การก้าวเข้าสู่ช่วงวัย 50 เป็นต้นไปนั้นไม่ได้ส่งผลต่อร่างกายอย่างเดียว แต่ยังส่งผลต่อสภาพจิตใจด้วย เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับวัยนี้คุณควรเข้าใจการทำงานของร่างกายที่มีประสิทธิภาพลดลง โดยเฉพาะระบบการย่อยการดูดซึมอาหาร ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารบางอย่าง ช่วงนี้คุณอาจไม่รู้สึกกระหายน้ำเท่าไหร่ แต่ควรดื่มน้ำให้สม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 8-12 แก้ว เพื่อป้องกันการขาดน้ำโดยไม่รู้ตัว ควรรับประทานคาร์โบไฮเดรตให้น้อยลงและพยายามเลือกชนิดไม่ขัดสี เน้นอาหารจำพวกปลาเพื่อไม่ให้ขาดโปรตีน ที่สำคัญคือเป็นเนื้อสัตว์ที่ย่อยง่าย

วัยนี้จะพบปัญหากระดูกเปราะ กระดูกพรุนอย่างชัดเจน ดังนั้น ควรได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอ อาหารแคลเซียมสูงอยู่ในนม โยเกิร์ตชนิดครีม เนยแข็ง หรือแม้แต่ปลาตัวเล็กตัวน้อย พวกผักใบเขียวก็มี เช่น คะน้า กวางตุ้ง และบรอกโคลี จะช่วยลดปัญหาเรื่องกระดูกให้รุนแรงน้อยลง การแก้ไขภาวะขาดน้ำอาจให้ดื่มน้ำสมุนไพร เช่น กระเจี๊ยบ เก๊กฮวย น้ำใบเตย นอกเหนือจากน้ำเปล่า เพราะช่วยบรรเทาโรคบางอย่างและให้ประโยชน์กว่าการดื่มเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน


สิ่งสำคัญไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงวัยใดควรดูแลเรื่องการกินอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นโรคหรือไม่ก็ตาม เพราะคนส่วนใหญ่มักจะดูแลตัวเองเมื่อพบว่าตัวเองมีโรคหรือมีปัญหาสุขภาพแล้วเท่านั้น นอกจากนี้การเพิ่มกิจกรรมเคลื่อนไหวระหว่างวันให้มาก ทำบ่อยๆจนติดเป็นนิสัย จะช่วยให้สุขภาพดีมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะประโยชน์ด้านระบบการไหลเวียนเลือด ควบคุมน้ำหนักตัว และลดความเครียดของร่างกายได้


รูปภาพ

แก้ไขล่าสุดโดย sun_dayhappy เมื่อ 01 ก.พ. 2011, 12:43, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง
รูปประจำตัวสมาชิก
sun_dayhappy
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 124
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2010, 12:10
Tel: ---
team: อิสระ
Bike: BMX
ตำแหน่ง: บ้านหลังน้อยๆ

Re: คลายเครียด.....

โพสต์ โดย sun_dayhappy »

for you...kookkai



รูปภาพ

รูปภาพ





รูปภาพ
pimp*
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 112
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ก.ย. 2010, 23:39
team: อิสระ
Bike: pinarello

Re: คลายเครียด.....

โพสต์ โดย pimp* »

ของไหว้ตรุษจีน2554 :D

รูปภาพ

ของไหว้ตรุษจีน2554

ประเพณีวันตรุษจีน หรือ วันขึ้นปีใหม่จีน เป็นประเพณีที่สืบทอดจากปฏิทินตามจันทรคติของจีน ซึ่งถือเป็นวันแรกของปี หรือวันแรกของเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ คนจีนจะถือวันแรกของเดือนแรก เป็น "วันตรุษจีน" ซึ่งปีนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ โดยคนจีนจะถือ "วันตรุษจีน" เป็นวันไหว้เพื่อต้อนรับเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ไฉ่ซิงเอี๊ย

ซึ่งในคืนก่อนวันตรุษจีนคนจีนถือเป็นวันครอบครัว ญาติพี่น้องที่อยู่แดนไกลจะถือเอาวันนี้กลับมาพบปะสังสรรค์กัน และจะไหว้เจ้า ไหว้ฟ้าดิน รวมถึงบรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เนื่องจากคนจีนถือว่าผู้ล่วงลับไปแล้ว จะคอยอยู่ปกป้องครอบครัวให้มีความเจริญผาสุก รวมถึงนำโชคลาภสู่สมาชิกในครอบครัวด้วย นอกจากนี้ การเลือกเวลาไหว้ให้เหมาะกับปีเกิดของแต่ละบุคคลก็มีความสำคัญมาก เพราะมีความเชื่อว่าการไหว้ให้ถูกเวลามีฤกษ์ดี ไหว้ให้ถูกทิศมีชัยภูมิที่ดี ไหว้ให้เหมาะกับบุคคลมีนักษัตรปีเกิดที่ดี และยังไหว้ให้ถูกขั้นตอนประเพณี

ทั้งนี้วันตรุษจีนจะมีการเตรียมของไหว้อย่างพิถีพิถัน แบ่งเป็นเนื้อสัตว์ ผลไม้ ขนมหวาน กับข้าวคาว กับข้าวเจ อย่างละ 3 หรือ 5 ชนิด พร้อมสุรา น้ำชา ข้าวสวย และกระดาษเงินกระดาษทองประเภทต่างๆ โดยจะจัดเรียงตามลำดับความสำคัญตามชนิดของอาหาร ซึ่งจะมีเสียงเรียกพ้องกับเสียงของคำมงคล และผลไม้ที่ขาดไม่ได้บนโต๊ะไหว้ก็คือ ส้มมหามงคลสีทอง ที่ชาวจีนเรียกว่าส้มไต่กิก เพราะมีความหมายหมายถึงความสวัสดีมงคลอย่างยิ่ง

สำหรับ "วันไหว้" จะทำกันในวันสิ้นปี ซึ่งปกติมีการไหว้ 3-4 ชุด เริ่มจาก "ไหว้เจ้าที่" ในช่วงเช้าด้วยชุดซาแซ คือ หมู เป็ด ไก่ ที่อาจเปลี่ยนเป็นไข่ย้อมสีแดงได้ ขนมเทียน และขนมถ้วยฟู หรือขนมอื่นๆ ผลไม้ไหว้มีส้มสีทอง องุ่น แอปเปิ้ล พร้อมกับกระดาษเงิน กระดาษทอง ต่อด้วยช่วงสายๆ ไม่เกินเที่ยง "ไหว้บรรพบุรุษ" เครื่องไหว้จะประกอบด้วยชุดซาแซ อาหารคาวหวาน ส่วนมากก็ทำตามที่ผู้ล่วงลับไปแล้วชอบ เต็มที่จะมี 10 อย่าง นิยมว่าต้องมี น้ำแกง เพื่ออวยพรให้ชีวิตราบรื่น และกับข้าวเลือกที่มีความหมายมงคล ส่วนขนมไหว้บรรพบุรษต่างๆ ก็มีความหมายมงคลเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม หลังจากไหว้บรรพบุรษแล้ว ช่วงเที่ยงหรือบ่ายก็จะไหว้ผีไม่มีญาติ จากนั้นก็เป็นช่วงกลางดึกของคืนวันสิ้นปีย่างเข้าตรุษจีน ที่จะมีการไหว้ ไฉ่ซิงเอี๊ย หรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ โดยให้หันโต๊ะไหว้ไปทางทิศเหนือ ซึ่งช่วงเวลาไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภที่ดีที่สุดของปีนี้อยู่ระหว่างเวลา 24.01-24.59 น.ทั้งนี้ ชาวจีนจะเตรียมจัดของไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภอย่างพิถีพิถัน เพราะในช่วงเวลาที่กำลังจะเข้าวันตรุษจีน โลกกำลังหมุนไปทางทิศนี้ แล้วเมื่อย่างเข้าวันปีใหม่จีนหรือวันตรุษจีน ก็ยังนิยมไปไหว้ขอพรและอวยพรจากญาติผู้ใหญ่ โดยจะนำส้มสีทองจำนวน 4 ใบ ไปมอบให้ด้วยเสมือนนำโชคดีไปให้ เพราะเสียงไปพ้องกับคำว่าทองในภาษาจีนแต้จิ๋ว

ทั้งนี้ สำหรับความหมายของ "ของไหว้วันตรุษจีน" ได้แก่...

รูปภาพ

ความหมายของผลไม้ไหว้วันตรุษจีน

- กล้วย หมายถึง กวักโชคลาภเข้ามา และขอให้มีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง

- แอปเปิ้ล หมายถึง ความสันติสุข สันติภาพ

- สาลี่ หมายถึง โชคลาภมาถึง (ควรระวังไม่นิยมไหว้บรรพบุรุษและวิญญาณไร้ญาติ)

- ส้มสีทอง หมายถึง ความสวัสดีมหามงคล

- องุ่น หมายถึง ความเพิ่มพูน

ความหมายของอาหารไหว้วันตรุษจีน

- ไก่ หมายถึง ความสง่างาม ยศ และความขยันขันแข็ง ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ต้องเป็นไก่เต็มตัว หมายถึง มีหัว ตัว ขา ปีก มีความหมายถึง ความสมบูรณ์

- เป็ด หมายถึง สิ่งบริสุทธิ์ ความสะอาด ความสามารถอันหลากหลาย

- ปลา หมายถึง เหลือกินเหลือใช้ อุดมสมบูรณ์

- หมู หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ มีกินมีใช้

- ปลาหมึก หมายถึง เหลือกิน เหลือใช้ (เหมือนปลา)

-บะหมี่ยาวหรือหมี่ซั่ว หรือ ฉางโซ่วเมี่ยน ตามชื่อหมายถึง อายุยืนยาว

-เม็ดบัว หมายถึง การมีบุตรชายจำนวนมาก

-ถั่วตัด หมายถึง แท่งเงิน

- สาหร่ายทะเลสีดำ หมายถึง ความมั่งคั่งร่ำรวย

- หน่อไม้ หมายถึง การอวยพรให้ร่ำรวยผาสุก

สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง คือ เต้าหู้ขาว เนื่องจากสีขาว คือ สีสำหรับงานโศกเศร้า

รูปภาพ


ความหมายของขนมไหว้วันตรุษจีน

- ขนมเข่ง คือ ความหวานชื่น ราบรื่นในชีวิต ขนมเข่งที่ใส่ในชะลอม หมายถึง ความหวานชื่นอันสมบูรณ์

- ขนมเทียน คือ เป็นขนมที่ปรับปรุงขึ้นจากชาวจีนโพ้นแผ่นดินดัดแปลงมาจากขนมท้องถิ่นของไทย จากขนมใส่ไส้เปลี่ยนจากแป้งข้าวเจ้าผสมกะทิมาเป็นแป้งข้าวเหนียวแทน มีความหมายหวานชื่น ราบรื่น รูปลักษณ์เป็นกรวยแหลมมีลักษณะเป็นมงคลเหมือนเจดีย์

- ขนมไข่ คือ ความเจริญเติบโต

- ขนมถ้วยฟู คือ ความเพิ่มพูนรุ่งเรือง เฟื่องฟู

- ซาลาเปา หรือ หมั่นโถว คือ ไหว้เพื่อให้เปาไช้ แปลว่าห่อโชค

-จันอับ (จั๋งอั๊บ) หมายถึง ปิ่นโต หมายถึงความหวานที่เพิ่มพูน มีความสุขตลอดไป

ข้อมูลดีๆจากกระปุกดอทคอม

รู้ถึงความหมายของ "ของไหว้ตรุษจีน" กันแล้ว ก็อย่าลืมนำไปปฏิบัติ เพื่อเป็นสิริมงคลกับตนเองและครอบครัวนะคะ :D

รูปภาพ
รูปประจำตัวสมาชิก
Kai kanbike
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 2205
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2010, 13:17
Tel: 0924936836
team: ชมรมจักรยานจังหวัดกาญจนบุรี
Bike: bianchi-dahon-giant-chevrolet
ตำแหน่ง: 624 กาญจนบุรีวิลล่า อ.เมืองกาญจนบุรี

Re: คลายเครียด.....

โพสต์ โดย Kai kanbike »

เรื่องสั้นตลกๆ เจ็บวาย


เรื่องมีอยู่ว่า นายเอนกเป็นคนที่ชอบสักยันต์มากลงอักขระเกือบทั้งตัว
แล้วมาวันหนึ่งเขาก็ได้ประสบอุบัติเหตุทำให้ขาหักต้องนอนอยู่ที่โรงพยาบาลขยับเขยื้อนไม่ได้
ทุกๆวันจะมีพยาบาลสาวและพยาบาลแก่เปลี่ยนกันมาคอยเช็ดตัวให้
...เรื่องการสักยันต์ของนายเอนกจึงเป็นเรื่องเม้าท์ในกลุ่มพยาบาลต่างๆ...
พยาบาลแก่อายุ 50 ปี : เมื่อวานฉันเข้าไปเช็ดตัวให้คนไข้ที่ชื่อเอนก..ฉันตกใจมากเลยเพราะเค้าสักยันต์ไว้ที่น้องชายของเขาว่า"เจ็บวาย" มันคืออะไรเหรอ?
พยาบาลสาวอายุ 35 ปี : เอ๊ะ!! แต่เมื่อตะกี๊ฉันก็เข้าไปเช็ดตัวให้เค้า แต่ทำไมฉันอ่านที่น้องชายเค้าได้คำว่า"เจ็บใจวาย"ล่ะ?
วันรุ่งขึ้นพยาบาลสาวทั้งสองคนจึงให้พยาบาลสาวสวยจบมาใหม่ไปเช็ดตัวให้นายเอนก
พยาบาลสาวสวยจบใหม่ : (วิ่งหน้าตาตื่น) พี่คะหนูรู้แล้วว่าคนไข้สักยันต์คำว่าอะไร
พยาบาลทั้งสองคน : ไหนๆ เค้าสักคำว่าอะไร?
พยาบาลสาวสวยจบใหม่ : เค้าสักว่า"เจ็บใจคนรักโดนรังแก ข้าจะเผาเมืองแปรให้มันวอดวาย"


*******************************


เรื่องขำขำ ปรึกษามาแล้ว

หลังจากตรวจร่างกายประจำปี คุณหมอแจ้งผลกับหนุ่มใหญ่

คุณ หมอ :"สุขภาพคุณดีมากครับ คุณมีอะไรปรึกษาหมออีกมั้ยครับ"

หนุ่มใหญ่ :"ผมอยากให้คุณหมอช่วยทำหมันให้ผมด้วยนะครับ"

ตุณหมอ :"ผมว่าคุณควรปรึกษากับครอบครัวก่อนนะครับ"

หนุ่มใหญ่ :"อ๋อ...ไม่มีปัญหาครับ ลูกๆตกลงให้ผมทำหมัน 14ต่อ2 ครับ"[/b]
******************

เรื่องโจ๊ก นักต่อรองมืออาชีพ


ณ ร้านหมอฟันแห่งหนึ่งในประเทศอเมริกา มีคนไข้ที่เป็นนักต่อราคาเข้ามาในร้าน

คนไข้: “หมอครับ ถ้าผมจะถอนฟัน 1 ซี หมอคิดเท่าไรครับ”

หมอฟัน: “ซีละ 100 เหรียญ” หมอตอบ

คนไข้: “โอโฮ..” คนไข้โวย “ถอนฟันซีเดียว ใช้เวลาแค่ 2-3 นาที หมอคิดตั้ง 100 เหรียญเชียวรึหมอ”

หมอฟัน: “ก็แล้วแต่คุณครับ” หมอยิ้ม “ จะให้ถอนซีเดียวครึ่ง ช.ม. ก็ได้ ถ้าชอบ”

คนไข้: ??????



*************************
การถาม... อาจทำให้คุณดูโง่...แค่ชั่วคราว แต่การไม่ถาม...อาจทำให้คุณโง่ได้อย่าง...ถาวร
รูปประจำตัวสมาชิก
sun_dayhappy
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 124
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2010, 12:10
Tel: ---
team: อิสระ
Bike: BMX
ตำแหน่ง: บ้านหลังน้อยๆ

Re: คลายเครียด.....

โพสต์ โดย sun_dayhappy »

รูปภาพ

อาหารรักษาแผล
รูปภาพ

สำหรับคนที่เล่นกีฬาหรือออกกำลังกายเป็นประจำคงมีบางครั้งที่อาจจะพลาดพลั้งเกิดอาการบาดเจ็บ เช่น ปวดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อฉีก หรือกระดูกร้าว เป็นต้น เรามีวิธีที่จะช่วยให้ร่างกายรักษาตนเองให้เป็นปกติได้รวดเร็วยิ่งขึ้น (ภายหลังจากที่คุณไปหาหมอแล้ว) ด้วยอาหารที่มีวิตามินแร่ธาตุเหล่านี้

โปรตีน
ปกติร่างกายต้องการโปรตีนเพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้กล้ามเนื้อ ยิ่งกล้ามเนื้อทำงานหนักขึ้นเท่าไร เราก็ต้องการโปรตีนมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้เซลล์เม็ดเลือดแดงและเนื้อเยื่อต่างๆ ก็ต้องการโปรตีนด้วยเช่นกัน แต่เมื่อกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และข้อต่อกระดูกเกิดบาดเจ็บ จะทำให้ร่างกายหยุดชะงักการลำเลียงโปรตีนไปยังส่วนต่างๆ ช่วงนี้ร่างกายจะต้องการโปรตีนเพิ่มขึ้นเป็น 80 - 110 กรัมต่อวัน จากเดิมที่เคยต้องการเพียง 75 - 100 กรัมต่อวัน
โปรตีนในปริมาณที่เพียงพอจะช่วยให้กล้ามเนื้อ เส้นเอ็นและข้อต่อกระดูกสามารถซ่อมแซมตัวเองได้รวดเร็ว และกระบวนการลำเลียงโปรตีนไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายทำงานเป็นปกติ
อาหารที่อุดมด้วยโปรตีนสูง คือ ไข่ ถั่วเหลือง เนื้อไม่ติดมัน ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม(ไขมันต่ำ) โดยโปรตีนเหล่านี้จะมีกรดแอมิโนที่ทำหน้าที่ช่วยย่อยสลายโปรตีนส่งไปยังกล้ามเนื้อ กระดูก เซลล์เม็ดเลือดแดง และอวัยวะภายในส่วนต่างๆ

สังกะสี
ร่างกายต้องการสังกะสีเพื่อผลิตเซลล์กระดูกและเซลล์กระดูกอ่อน แต่เมื่อกระดูกได้รับบาดเจ็บ เซลล์เหล่านี้จะทำงานอย่างหนักเพื่อซ่อมแซมตัวเอง แต่หากช่วงเวลานั้นปริมาณสังกะสีมีไม่เพียงพอก็จะไม่สามารถผลิตเซลล์กระดูกและเซลล์กระดูกอ่อนเพื่อมาช่วยซ่อมแซมกระดูกได้
เป็นที่น่าเสียดายที่บรรดาผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนักมักจะหลีกเลี่ยงการกินเนื้อแดงซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายขาดสังกะสี
อาหารที่อุดมไปด้วยสังกะสี นอกจากเนื้อแดงแล้วยังมีหอยนางรม หอยกาบ ขนมปังธัญพืช ซีเรียลที่ผสมสังกะสี แต่ในภาวะที่กระดูกยังไม่เข้าที่ควรจะกินสังกะสีในรูปของแคปซูลเสริมเข้าไปด้วย เพื่อให้ได้ปริมาณ 15 มิลลิกรัมต่อวัน

วิตามินซี
ในขณะที่ร่างกายเกิดบาดแผล โปรตีนที่มีชื่อว่า "คอลลาเจน" จะสร้างเนื้อเยื่อมาช่วยสมานแผลให้ปิดสนิท กระบวนการซ่อมแซมตัวเองจึงต้องอาศัยวิตามินซีเป็นตัวหลักในการผลิตคอลลาเจน ซึ่งหากร่างกายไม่ได้รับวิตามินซีอย่างพอเพียงติดต่อกันเป็นเวลาหลายอาทิตย์ เมื่อเกิดบาดแผลขึ้นจะทำให้แผลหายช้าและปิดไม่สนิท เนื่องจากผลิตคอลลาเจนออกมาได้น้อยเกินไป
อาหารที่อุดมด้วยวิตามินซี คือ ผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะนาว สตรอว์เบอร์รี่ รวมถึงผังต่างๆ เช่น บร็อคเคอลี กำหล่ำปลี ร่างกายควรได้รับวิตามินซีจำนวน 100 - 250 มิลลิกรัมต่อวัน



ที่มา : นิตยสารรายปักษ์ แพรว

ปีที่ 25 ฉบับที่ 600
25 สิงหาคม 2547
หน้า 180-181

รูปประจำตัวสมาชิก
sun_dayhappy
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 124
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2010, 12:10
Tel: ---
team: อิสระ
Bike: BMX
ตำแหน่ง: บ้านหลังน้อยๆ

Re: คลายเครียด.....

โพสต์ โดย sun_dayhappy »

Kai kanbike เขียน:รูปภาพ



ความไม่แน่นอนเป็นสิ่งที่แน่นอน.... : :roll: ;)



..เหมือนอุบัติเหตุมักจะเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิดมาก่อน ฉะนั้น อย่าประมาทในการใช้ชีวิตนะจ๊ะ.....
รูปประจำตัวสมาชิก
sun_dayhappy
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 124
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2010, 12:10
Tel: ---
team: อิสระ
Bike: BMX
ตำแหน่ง: บ้านหลังน้อยๆ

Re: คลายเครียด.....

โพสต์ โดย sun_dayhappy »

รูปประจำตัวสมาชิก
protum
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 731
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2010, 14:13
Tel: 0840846531
team: ชมรมจักรยานจังหวัดกาญจนบุรี
Bike: scott trek dahon

Re: คลายเครียด.....

โพสต์ โดย protum »

เพลงฮาๆ เคยฟังกันรึยัง
DRINK SEX BIKE
รูปประจำตัวสมาชิก
sun_dayhappy
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 124
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2010, 12:10
Tel: ---
team: อิสระ
Bike: BMX
ตำแหน่ง: บ้านหลังน้อยๆ

Re: คลายเครียด.....

โพสต์ โดย sun_dayhappy »

:lol: เคยฟังแล้วจ๊ะ เพลงอะไร... ร้องก็ไม่ชัด...ระวังเดี๋ยวแปลความหมายผิดนะ :lol:
รูปประจำตัวสมาชิก
Kai kanbike
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 2205
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2010, 13:17
Tel: 0924936836
team: ชมรมจักรยานจังหวัดกาญจนบุรี
Bike: bianchi-dahon-giant-chevrolet
ตำแหน่ง: 624 กาญจนบุรีวิลล่า อ.เมืองกาญจนบุรี

Re: คลายเครียด.....

โพสต์ โดย Kai kanbike »

เรื่อง ความอยากรู้อยากเห็น

เด็กชายไข่นุ้ยอายุ 4 - 5 ขวบ กำลังอยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็น
>> วันหนึ่งออกไปเดินเล่นกับพ่อ
>> เห็นหมาตัวผู้ติดxxxกำลังผสมพันธุ์กับหมาตัวเมีย
>> (หมาตัวผู้คร่อมหมาตัวเมียอยู่) เด็กชายไข่นุ้ยก็ถามพ่อว่า พ่อ พ่อ
>> นั่นหมามันทำอะไรนะ
>> พ่อ : หมามันจะทำ \\\"ลูกหมา\\\" น่ะ
>> เด็กชายไข่นุ้ยพยักหน้าด้วยความเข้าใจ \\\"อ๋อ ทำลูกหมานี่เอง\\\"
>> ต่อมาคืนหนึ่งเด็กชายไข่นุ้ยนอนไม่หลับกะจะเข้าไปคุยกับพ่อ
>>พอ เปิดห้องพ่อ
>> เห็นแม่นอนหงาย พ่อทับแม่อยู่บนเตียง ด้วยความสงสัย
>> เด็กชายไข่นุ้ยก็ถามพ่อด้วยความฉงนว่า
>> \\\"พ่อ พ่อ พ่อทำอะไรกับแม่หนะ\\\"
>> พ่อ : พ่อกำลัง \\\"ทำน้อง\\\" ให้ลูก.....ไงล่ะ......
>> พอพ่อพูดไม่ทันเสร็จเด็กชายไข่นุ้ยก็ร้องลั่นทันที
>> \\\"พ่อจับแม่คว่ำสิ.....ผมไม่อยากได้น้อง.... .....ผมอยากได้
>> \\\"ลูกหมา\\\

**************************



ขอบคุณนะที่ชม


ชายหนุ่มอ่านหนังสือพิมพ์


พบเรื่องของนักแสดงสาวสวย


แต่งงานกับนักกีฬาที่มีชื่อเสียงโด่งดังแต่ไอคิวต่ำเหลือหลาย


เขาจึงหันไปพูดกับภรรยาว่า


"ทำไมผู้ชายโง่ๆ ถึงได้เมียสวยนะ"


"จะเพราะอะไรก็ช่างเถอะ


แต่ขอบคุณนะที่ชม " ภรรยากล่าว


************************

นึกว่าใช่


วันหนึ่ง วิวัฒน์ได้พบกับเพื่อนสมัยเรียนด้วยกันคือวิรุจน์ และได้แลกนาม-

บัตรกันไว้ คืนหนึ่งดึกมากแล้วพ่อของวิวัฒน์ไม่สบายมาก หายใจระทดระทวย

จะพาพ่อไปโรงพยาบาลก็ไกลมาก จึงนึกถึงวิรุจน์ให้วิรุจน์มาดูแล และรักษา

อาการของพ่อที่บ้านจะดีกว่า เพราะตามที่นามบัตรที่วิรุจน์ให้ไว้ ที่อยู่ก็ไม่น่า

จะไกลจากที่บ้านมากนัก

วิวัฒน์ :รุจ์เหรอ นี่วัฒน์นะ แกช่วยมาดูอาการของพ่อฉันหน่อยสิ พ่ออาการ

ไม่ดีเลย ยิ่งเป็นโรคหัวใจอยู่ด้วย แกมาที่บ้านฉันเดี๋ยวนี้เลยนะรุจน์

วิรุจน์ :เฮ้ย ไอ้วัฒน์ ฉันไม่ใช่หมอนะโว้ย จะได้ช่วยพ่อแกได้ แต่ถ้าให้ฉันพา

พ่อแกไปโรงพยาบาลกับแกน่ะพอได้

วิวัฒน์ :อ้าว แกไม่ได้เป็นหมอเหรอวะ ก็ในนามบัตรที่แกให้ฉัน มันเขียนว่า

หายใจใม่ออก บอกวิรุจน์ ไงล่ะ ฉันก็นึกว่าแกเป็นหมอ

วิรุจน์ :โธ่ ไอ้วัฒน์ ฉันขายโลงศพโว้ย



*******************************

เบาๆ หน่อย


สองหนุ่มสาวกลับจากฮันนีมูน และย้ายเข้าไปอยู่ในอพาร์ตเมนท์ของครอบครัวฝ่ายชาย โดยสอง หนุ่มสาวอยู่ชั้นบน ส่วนพ่อแม่สามีอยู่ชั้นล่าง

ค่ำนั้น ขณะที่พ่อกำลังหลับฝันดีอยู่บนเตียง แม่ก็สะกิดปลุกเขาให้ตื่นขึ้น

"ฟังเสียงนั่นสิ" เธอกระซิบ

เขาเงี่ยหูฟัง ได้ยินเสียงเตียงลั่นเอี๊ยดอ๊าดจากชั้นบน

"ทำแบบนั้นบ้างสิ" แม่กระซิบ

พ่อจึงต้องส่งการบ้านให้แม่หนึ่งข้อ เสร็จแล้วก็นอนต่อ ยังไม่ทันหลับดีแม่ก็กระซิบ

"ฟังสิ พ่อ ขอแบบนั้นอีกครั้งสิ"

พ่อขยับมา ส่งการบ้านให้แม่อีกชุดหนึ่ง

หลัง จากนั้นไม่นาน เสียงเตียงชั้นบนก็ดังขึ้นอีก พ่อโดนแม่สะกิดอีกครั้ง

"พ่อ ฟังสิ"

ไม่ทันขาดคำ พ่อลุกขึ้นเคาะเพดานและตะโกนบอกลูกชาย

"เฮ้ย! คุณลูกชาย เบาๆ หน่อยโว๊ย แกกำลังจะฆ่าพ่อแกรู้มั๊ย"


***************************
การถาม... อาจทำให้คุณดูโง่...แค่ชั่วคราว แต่การไม่ถาม...อาจทำให้คุณโง่ได้อย่าง...ถาวร
รูปประจำตัวสมาชิก
Kai kanbike
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 2205
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2010, 13:17
Tel: 0924936836
team: ชมรมจักรยานจังหวัดกาญจนบุรี
Bike: bianchi-dahon-giant-chevrolet
ตำแหน่ง: 624 กาญจนบุรีวิลล่า อ.เมืองกาญจนบุรี

Re: คลายเครียด.....

โพสต์ โดย Kai kanbike »

























แก้ไขล่าสุดโดย Kai kanbike เมื่อ 15 ก.พ. 2011, 23:20, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง
การถาม... อาจทำให้คุณดูโง่...แค่ชั่วคราว แต่การไม่ถาม...อาจทำให้คุณโง่ได้อย่าง...ถาวร
pimp*
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 112
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ก.ย. 2010, 23:39
team: อิสระ
Bike: pinarello

Re: คลายเครียด.....

โพสต์ โดย pimp* »

Love Songs..For..You :D

รูปภาพ
รูปภาพ



[youtube]KBqkTJSqeBU&feature=related[/youtube]



[youtube]34Mjm-RhECQ&feature=related[/youtube]



[youtube]947-vDXRkHI&feature=related[/youtube]





[youtube]dhQmkV-yqns&feature=related[/youtube]



[youtube]tokctHtTYQs&feature=related[/youtube]

[youtube]PeUzd-1A62U&feature=related[/youtube]

รูปภาพ
แก้ไขล่าสุดโดย pimp* เมื่อ 17 ก.พ. 2011, 00:15, แก้ไขแล้ว 10 ครั้ง
รูปประจำตัวสมาชิก
Kai kanbike
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 2205
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2010, 13:17
Tel: 0924936836
team: ชมรมจักรยานจังหวัดกาญจนบุรี
Bike: bianchi-dahon-giant-chevrolet
ตำแหน่ง: 624 กาญจนบุรีวิลล่า อ.เมืองกาญจนบุรี

Re: คลายเครียด.....

โพสต์ โดย Kai kanbike »

ขออนุญาตนำเรื่องในวังมาให้อ่านกันนะครับ

--------------------------------------------------------------------------------
เรื่องเล่าจากในวัง- อ่านแล้วอ่านอีกก็ยังไม่เบื่อ
ผมมีเรื่องที่จะเล่าให้ฟังอยู่เหตุการณ์หนึ่งซึ่งเป็นเรื่องจริงเหตุการณ์เกิดทีจังหวัดตาก
เมื่อพระเทพทรงเสด็จไปเยี่ยมราษฏรตามที่ต่างๆ
และได้ทรงเสด็จไปเยี่ยมประชาชนในตลาดสด
และถามความเป็นอยู่กับบรรดาแม่ค้าในตลาด แต่ก็มาถึงแม่ค้าปลา
ซึ่งพระองค์ทรงตรัสถามว่า 'ปลาพวกนี้ขายอย่างไงจ๊ะ'
แม่ค้าตอบว่า 'ที่สวรรคตแล้ว กิโลละ 40 บาท
และที่เสด็จไปเสด็จมากิโลละ 80 บาทจ๊ะ'
เหตุการณ์นี้ ทำให้ข้าราชบริพารที่ตามเสด็จหัวเราะกันทุกคน




---------------------------------------




เช้าวันหนึ่ง เวลาประมาณ 7 โมงเช้า
นางสนองพระโอษฐ์ของฟ้าหญิงองค์เล็ก ได้รับโทรศัพท์เป็นเสียงผู้ชาย
ขอพูดสายกับฟ้าหญิง
ทางนางสนองพระโอษฐ์ ก็สอบถามว่าใครจะพูดสายด้วย
ก็มีเสียงตอบกลับมาว่า คนที่แบงค์
นางสนองพระโอฐก็ งง...งง ว่าคนที่แบงค์ทำไมโทรมาแต่เช้า
แบงค์ก็ยังไม่เปิดนี่หว่า
แต่พอฟ้าหญิงรับโทรศัพท์แล้วถึงได้รู้ว่า คนที่แบงค์น่ะ
ก็ที่แบงค์จริงๆนะ ไม่เชื่อเปิดกระเป๋าตังค์
แล้วหยิบแบงค์มาดูสิ ............ ขนลุกเลย ทรงตรัสกับในหลวงท่านอยู่นั่นเอง




------------------------------------




อีกครั้งหนึ่งที่ภาคอีสาน
เมื่อเสด็จขึ้นไปทรงเยี่ยมบนบ้านของราษฎรผู้หนึ่ง
ที่คณะผู้ตามเสด็จทั้งหลายออกแปลกใจในการกราบบังคมทูล
ที่คล่องแคล่วและใช้ราชาศัพท์ได้อย่างน่าฉงน
เมื่อในหลวงมีพระราชปฏิสันถารถึงการใช้ราชาศัพท์ได้ดีนี้ จึงมีคำกราบทูลว่า
'ข้าพระพุทธเจ้าเป็นโต้โผลิเกเก่าบัดนี้มีอายุมากจึงเลิกรามาทำนาทำสวนพระพุทธเจ้า..'
มาถึงตอนสำคัญที่ทรงพบนกในกรงที่เลี้ยงไว้ที่ชานเรือน
ก็ทรงตรัสถามว่า เป็นนกอะไรและมีกี่ตัว..
พ่อลิเกเก่ากราบบังคมทูลว่า
มีทั้งหมดสามตัว พระมเหสีมันบินหนีไป
ทิ้งพระโอรสไว้สองตัว ตัวหนึ่งที่ยังเล็ก ตรัสอ้อแอ้อยู่เลย
และทิ้งให้พระบิดาเลี้ยงดูแต่ผู้เดียว'
เรื่องนี้
ดร.สุเมธเล่าว่าเป็นที่ต้องสะกดกลั้นหัวเราะกันทั้งคณะไม่ยกเว้นแม้ในหลวง

-------------------------------------

เมื่อครั้งท่านพระชนม์มายุ 72 พรรษา มีการผลิตเหรียญที่ระลึกออกมาหลายรุ่น



เจ้าของกิจการนาฬิกายี่ห้อหนึ่งได้ยื่นเรื่องขออนุญาตนำพระบรมฉายาลักษณ์ของท่านมาประดับที่หน้าปัดนาฬิกาเป็นรุ่นพิเศษ
ท่านทราบเรื่องแล้วตรัสกับเจ้าหน้าที่ว่า 'ไปบอกเค้านะเราไม่ใช่มิกกี้เมาส์'

--------------------------------------




เรื่องการใช้ราชาศัพท์กับในหลวง
ดูจะเป็นเรื่องใหญ่ที่ใครต่อใครเกร็งกันทั้งแผ่นดิน
และไม่เว้นแม้กระทั่งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายรายงาน
ครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนมีข้าราชการระดับสูงผู้หนึ่งกราบบังคมทูลรายงาน
ว่า 'ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม
ข้าพระพุทธเจ้าพลตรีภูมิพลอดุลยเดช ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต
กราบบังคมทูลรายงาน ฯลฯ'
เมื่อสิ้นคำกราบบังคมทูลชื่อในหลวงทรงแย้มพระสรวล
อย่างมีพระอารมณ์ดีและไม่ถือสาว่า
'เออ ดี เราชื่อเดียวกัน...'
ข่าวว่าวันนั้นผู้เข้าเฝ้าต้องซ่อนหัวเราะขำขันกันทั้งศาลาดุสิดาลัย
เพราะผู้รายงานตื่นเต้นจนจำชื่อตนเองไม่ได้




-----------------------------------





มีอยู่ครั้งหนึ่งทรงเสด็จไปพระราชทานปริญญาบัตรให้กับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
ในระหว่างที่ทรงเปลี่ยนในครุย ทรงโปรดสูบมวนพระโอสถ แต่ว่าทรงหาที่จุดไม่ได้
ทางอธิการบดีซึ่งเฝ้าอยู่ก็จุดไฟให้พร้อมทูลว่า 'ถวายพระเพลิงพระเจ้าข้า'
ในหลวงทรงชะงัก ก่อนจะแย้มสรวลน้อยๆ กับอธิการบดีว่า
'เรายังไม่ตายถวายพระเพลิงไม่ได้หรอก'




------------------------------------




เคยมีเรื่องเล่าให้ฟังว่า ในหลวงเสด็จไปในถิ่นทุรกันดารเพื่อเยี่ยมเยียนราษฎร
อยู่ครั้งหนึ่งพระองค์ท่านทรงแจกพระเครื่องให้กับราษฎรจนหมดแล้ว
แต่ราษฎรผู้หนึ่งกราบบังคมทูลขอรับพระราชทานพระเครื่องว่า
'ขอเดชะ ขอพระหนึ่งองค์'
ในหลวงทรงตรัสว่า 'ขอเดชะ พระหมดแล้ว '




------------------------------------





วันหนึ่งพระองค์ท่านเสด็จเยี่ยมเยียนพสกนิกรของท่านตามปกติที่ต่างจังหวัด
ก็มีชาวบ้านมาต้อนรับในหลวงมากมาย
พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินมาตามลาดพระบาท
ที่แถวหน้าก็มีหญิงชราแก่คนหนึ่งได้ก้มลงกราบแทบพระบาท
แล้วก็เอามือของแกมาจับพระหัตถ์ของในหลวง แล้วก็พูดว่า
'ยายดีใจเหลือเกินที่ได้เจอในหลวง'
แล้วก็พูดว่า ยายอย่างโน้น ยายอย่างนี้ อีกตั้งมากมาย
แต่ในหลวงก็ทรงเฉยๆ มิได้ตรัสรับสั่งตอบว่ากระไร
แต่พวกข้าราชบริพารก็มองหน้ากันใหญ่ กลัวว่าพระองค์จะทรงพอพระราชหฤหัย หรือไม่
แต่พอพวกเราได้ยินพระองค์รับสั่งตอบว่ากับหญิงชราคนนั้น
ทำให้เราถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหว เพราะพระองค์ทรงตรัสว่า
'เรียกว่ายายได้อย่างไร อายุอ่อนกว่าแม่ฉันตั้งเยอะ
ต้องเรียกน้าซิถึงจะถูก'




---------------------------------------




ครั้งหนึ่งหลายๆ ปีมาแล้ว
พระเจ้าอยู่หัวทรงประชวรนิดหน่อยเกี่ยวกับพระฉวีมีพระอาการคัน
มีหมอโรคผิวหนังคณะหนึ่งไปเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายการรักษา

คุณหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญทางโรคผิวหนังแต่ไม่ได้เชี่ยวชาญทางราชาศัพท์
ก็กราบบังคมทูลว่า 'เอ้อ - ทรง... อ้า-ทรงพระคันมานานแล้วหรือยังพะยะค่ะ
อ้า-ทรงพระคันมานานแล้วหรือยังพะยะค่ะ'
พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระสรวล ตรัสว่า 'ฉันไม่ใช่ผู้หญิงนี่จะท้องได้ยังไง'
แล้วคงจะทรงพระกรุณาว่า หมอคงจะไม่รู้ราชาศัพท์ทางด้านอวัยวะร่างกายจริงๆ
ก็พระราชทานพระบรมราชานุญาตว่า เอ้า พูดภาษาอังกฤษกันเถอะ
เป็นอันว่าก็กราบบังคมทูลซักพระอาการกันเป็นภาษาอังกฤษไป




------------------------------





เรื่องนี้รุ่นพี่ที่จุฬาฯเล่าให้ฟังว่า
มีอยู่ปีนึงที่ในหลวงทรงเสด็จพระราชทานปริญญาบัตร
อธิการบดีอ่านรายชื่อบัณฑิตแล้วบังเอิญว่า มีเหตุขัดข้องบางประการ
ทำให้อ่านขาดตอน ก็ต้องรีบหาว่าอ่านรายชื่อไปถึงไหนแล้ว
ปรากฏว่าในหลวงท่านทรงจำได้ ท่านเลยตรัสกับอธิการไปว่า
'เมื่อกี้นี้ (ชื่อ....) เค้ารับไปแล้ว'
และมีอีกปีนึงขณะที่พระราชทานปริญญาบัตรอยู่ดีๆ ไฟดับไปชั่วขณะ...
ทำให้บัณฑิตคนหนึ่งพลาดโอกาสครั้งสำคัญในการถ่ายรูป
พอในหลวงทรงพระราชทานปริญญาบัตรเรียบร้อยแล้ว
ก่อนที่จะให้พระบรมราโชวาท
ท่านทรงให้อธิการบดีเรียกบัณฑิตคนนั้นมารับพระราชทานอีกครั้ง
เพื่อจะได้มีรูปไว้เป็นที่ระลึก ตื้นตันกันถ้วนทั่วทั้งหอประชุม
ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
>

*

*

*

ถ้ารักท่านก็ส่งไปเรื่อยๆนะ




**********************
การถาม... อาจทำให้คุณดูโง่...แค่ชั่วคราว แต่การไม่ถาม...อาจทำให้คุณโง่ได้อย่าง...ถาวร
ตอบกลับ

กลับไปยัง “ชมรมจักรยานจังหวัดกาญจนบุรี”